เห็ดออรินจิเสียบไม้ชุบแป้งทอด

เห็ดออรินจิเสียบไม้ชุบแป้งทอด : ไปเดินตลาด เห็นเขาขายไก่ไม่มีกระดูกเสียบไม้ทอด มองๆไปก็นึกได้ว่า เราก็เอาเห็ดมาชุบแป้ง และเกล็ดขนมปัง คงออกมาหน้าตาคล้ายๆกันได้
ว่าแล้วก็ลองทำดู หน้าตาออกมาพอใช้ได้ แต่ทอดลำบากไปหน่อย กะทะกว้าง เลยเปลืองน้ำมัน ถ้าตัดไม้จิ้มให้สั้นน่าจะทอดง่าย
เป็นของกินเล่นที่ทำแล้วดูน่ากิน เหมาะกับเวลามีงานสังสรรค์เหมือนกัน เพราะหยิบกินง่าย
เห็ดออรินจิเสียบไม้ชุบแป้งทอด มีวัตถุดิบที่ใช้คือ
- เห็ดออรินจิ
- แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป
- เกล็ดขนมปัง
- น้ำมันพืช
- น้ำจิ้มตามที่ชอบ
- ไม้เสียบลูกชิ้น
วิธีทำ เห็ดออรินจิเสียบไม้ชุบแป้งทอด
- ล้างแล้วหั่นเห็ดออรินจิ ตามยาว หรือตามขวาง แล้วเสียไม้เตรียมไว้
- ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็น หรือไม่เย็นก็พอได้ แต่เขาว่าจะกรอบไม่นาน
- เสร็จแล้วเอาเห็ดไปชุบ และเอาไปกลิ้งกับเกล็ดขนมปังที่เตรียมไว้
- เอาลงไปทอดในกะทะที่เต็มไปด้วยน้ำมันร้อนๆ
- ทอดพอให้เหลืองกรอบ แล้วจึงเอามาวางพัก ให้สะเด็ดน้ำมัน หรือใช้กระดาษทิชชู่ซับ
- ใส่จานกินพร้อมน้ำจิ้ม เป็นของกินเล่นที่อร่อยได้ง่ายๆ
ผัดกะเพราเห็ดนางฟ้า
ในชุมชนต่างจังหวัด รถขายผักขายวัตถุดิบต่างๆ จะมาตามเวลา ทำให้ชาวบ้านหาซื้อวัตถุดิบได้สะดวก แม้จะไม่มีตลาดใกล้ๆ
ผมก็ชอบมารอรถขายผักเหมือนกัน มักจะซื้อเห็ดนางฟ้ามา เพราะเป็นเห็ดอย่างเดียว ที่มีตามรถหิ้วแบบนี้ ซื้อ 1 ถุง 20 บาทสามารถนำมาผัดสำหรับกินสองมื้อได้สบายๆ

จานนี้ก็เป็นผัดกะเพราราดข้าว ข้าวที่ใช้ก็ข้าวกล้อง ใส่ไขดาวหนึ่งใบ สมัยนั้นยังกินไข่อยู่ ถ่ายรูปออกมาก็สวยดีทีเดียว ส่วนรสชาติก็กินง่ายหมดไว อร่อยกันง่ายๆ
ผัดกะเพราเห็ดนางฟ้า ผัดกะเพราเป็นเมนูที่ผมทำไม่บ่อยนัก แต่ก็ชอบมาก เพราะว่าอยู่บ้านเช่า ไม่มีต้นกะเพรา ต้องคอยซื้อเขากิน ก็ลำบากอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะไม่มีตู้เย็น เก็บไว้เกินหนึ่งวันก็เหี่ยวแล้ว
เราสามารถประยุกต์ใส่เห็ดอื่นๆได้ตามชอบ ใครชอบเห็ดแบบไหนก็ใส่ไป ล่าสุดได้ลองใส่เห็ดขอนขาว ก็อร่อยมาก เพราะรสสัมผัสต่างไปจากเห็ดนางฟ้า ทำให้เมนูกะเพราของเราอร่อยหลากหลายจนกินได้ไม่เบื่อ
กะหล่ำปลีผัดซีอิ้ว
ผมเคยอ่านเรื่องราวของเมนูยอดฮิต กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เป็นเมนูฮิตที่หลายคนชอบ ในร้านอาหารมักขายกันในราคาไม่ถูกเหมือนต้นทุน จนกระทั่งมีคนนำสูตรมาบอกในเว็บไซต์พันทิพซึ่งเป็นกระทู้ที่ฮิตฮอต คนสนใจกันมากมาย
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจ จึงได้ดัดแปลงเมนู กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา กลายมาเป็น กะหล่ำปลีทอดซีอิ้ว หรือกระหล่ำปลีผัดซีอิ้ว ซีิ้วที่ใช้ก็เป็นซีอิ้วขาวเห็ดหอมที่หาได้ทั่วไป วิธีทำก็ทำตามเขา ต่างกันแค่เราใส่ซีอิ้วแทนน้ำปลาไป สรุปก็อร่อยกันแบบมังสวิรัติ อร่อยแบบน้ำปลาเป็นอย่างไรไม่รู้ ลืมไปนานแล้ว เราผัดเอง ยังไงก็อร่อยเนอะ

ใส่น้ำมัน รอให้ร้อน ใส่กระเทียม แล้วก็ต่อไปจนเสร็จ กลิ่นหอมแตะจมูก แค่คิดถึงก็น้ำลายไหล ถ้าได้กลิ่นจะขนาดไหนกัน เป็นกลิ่นหอมมังสวิรัติ หอมคุณค่า กินเพื่อลด ละ เลิก เนื้อสัตว์ ได้สุขภาพ และกุศลไปในตัว
กะหล่ำปลีผัดซีอิ้ว ทำง่ายกินง่าย กะหล่ำปลี เป็นผักที่เก็บได้นาน ถ้าเป็นไปได้เราก็หาซื้อที่ปลอดสารพิษ หรือปลูกแบบธรรมชาติมากินก็ได้
จะใส่ผักอะไรเติมไปก็ได้ สรุปก็ออกมาเหมือนผัดผักทั่วๆไปนั่นแหละ ด้วยความที่ทำแบบไม่ใส่ใจนัก เอาแค่กินได้ก็พอ แต่มีแค่กะหล่ำปลี ก็อร่อยมากแล้วละนะ
มาม่ากะหล่ำปลี
มาม่านี่เป็นเมนูคู่ใจชาวไทยจริงๆครับ ติดบ้านไว้ฉุกเฉินตอนไม่มีอะไรกินหรือรีบๆก็พอจะกินได้ ใส่ผักเพิ่มหน่อยก็อร่อยแล้ว
แรกๆผมก็ยังใช้มาม่าแบบทั่วๆไป รสหมูสับ รสต้มยำ ฯลฯ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้อะไรมากๆ หลังๆเริ่มรู้สึกผิด ค้นหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นมังสวิรัติ สุดท้ายก็ได้มา ซื้อมาติดบ้านไว้ จะเป็นยี่ห้ออะไรก็ลองค้นกันดูในกูเกิ้ลได้เลยนะครับ ด้วยคีเวิร์ด “มาม่า มังสวิรัติ”

มาม่าชามนี้ผมใส่กะหล่ำปลีครับ ผักกะหล่ำปลีเป็นผักที่เก็บได้นาน แม้ว่าจะไม่ได้ใส่ตู้เย็น เหมาะกับตอนที่ไปเช่าบ้านอยู่ต่างจังหวัดแล้วไม่มีตู้เย็นมากๆ ใส่ต้มกินกับมาม่าก็หวาน อร่อย กินง่ายอีกด้วย
เมนูนี้ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ยุ่งยาก ไม่ลำบากเลย แค่หั่นผัก ต้มน้ำ ใส่ผัก ใส่เส้น ใส่เครื่องปรุง รอสักครู่ ก็เสร็จแล้ว กินง่าย ได้พลังงาน แล้วไปทำงานต่อกันเลย
มาม่ากะหล่ำปลี มาม่า หรือที่เข้าใจกันคือเส้นบะหมี่สำเร็จรูป ก็สามารถเลือกรสชาติได้ตามชอบ ส่วนที่เป็นมังสวิรัติมีไม่มาก อาจจะใช้เฉพาะเส้นมากิน เราทำน้ำซุปเองก็ได้ ใส่ผักต้มกันตามชอบ มีน้อยใส่น้อย มีมากก็ใส่ให้พอดีกิน อย่างผมกินนี่ใช้เส้น 3 ห่อ กะหล่ำปลี 1 หัว กินมื้อเดียวอยู่ได้วันหนึ่งสบายๆ ออกจะเกินๆด้วยซ้ำนะ
บะหมี่ในปั้ม
ใช่ว่ากินมังสวิรัติจะลดค่าใช้จ่ายได้เสมอไป บางทีก็แพงเหมือนกัน แล้วแต่ที่ แล้วแต่จังหวะ แล้วแต่ความคุ้นเคยของแม่ค้า ฯลฯ
ระหว่างขับรถกลับกรุงเทพฯ ผมแวะปั้มแห่งหนึ่ง มีศูนย์อาหารเล็กๆ มองหาอะไรที่กินง่ายๆ จะได้เดินทางต่อ ก็มาเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว เลยเข้าไปสั่ง ” บะหมี่น้ำใส่แต่ผัก เอาบะหมี่ 3 ก้อนนะครับ ” สรุปชามนี้ 50 บาท… แพงใช้ได้ ค่าเช่าเขาคงแพงเนาะ ไม่ว่ากัน

ถ้าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน อย่างมากก็ 30 บาทนะ เวลาเราไปสั่งที่ไหนก็อย่าไปยึดติดว่า ต้องราคาถูกเสมอไป เพราะบางทีเขาก็นับจำนวนจานที่ขายออก บางครั้งเขาก็ไม่คุ้นกับเมนูที่ไม่มีใครเคยสั่ง อะไรต่อมิอะไรมากมายให้เป็นปัจจัยผันผวน ในด้านราคา
แต่ของเขาก็อร่อยดีนะ ไม่ได้ปรุงเพิ่มสักเท่าไหร่ เพราะปกติจะกินรสใกล้ๆ รสจืดแล้ว แต่ก่อนกินรสจัดมาก น้ำตาลสองช้อน พริก 1 ช้อน ทำลายร่างกายกันไปเลย เดี๋ยวนี้พอกินจืดจะรู้รสน้ำซุปเขาได้ดีขึ้นด้วยล่ะ
บะหมี่ในปั้ม บะหมี่นี่เป็นอาหารที่หากินง่ายจริงๆ อย่างน้อยในปั้มใหญ่ๆก็ต้องมี ถ้าอยากซดน้ำ พร้อมกินเส้นกันเบาๆ ก็ไม่ยากนักที่จะหากิน ถ้าเป็นบะหมี่สำเร็จรูปมังสวิรัติก็มีขายกันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้กิน ถ้าเจอร้านอาหาร ก็จะกินร้านอาหารมากกว่า เพราะนอกจากอิ่มแล้ว ราคารวมก็น่าจะประหยัดกว่าด้วยนะ
ขนมจีนแกงเขียวหวาน
ขนมจีนมังสวิรัติ นั้นทำได้ไม่ยากนัก เดี๋ยวนี้มีพริกแกงเจขาย ซึ่งหาซื้อมาเก็บไว้ได้ หรือถ้ายังไม่เคร่งมากก็สามารถใช้พริกแกงเขียวหวานบ้านๆได้เหมือนกัน
ขนมจีนแกงเขียวหวานจานนี้ ผมขอให้แม่ทำให้ครับ เพราะตอนนั้นเริ่มกินมังสวิรัติใหม่ๆ อยากรู้อารมณ์ตอนกินขนมจีนมังสวิรัติ เนื้อสัตว์ไม่ต้อง คุณแม่ก็จัดมาให้ตามที่ต้องการ เลยได้เห็นเป็นผลกันในภาพนี้

ส่วนผสมหลักๆก็มีข้าวโพดอ่อน ยอดมะพร้าวอ่อน เห็ดหูหนู ครับ กินง่ายดี อร่อยด้วย บอกตรงๆว่าแทนที่ขนมจีนแกงเขียวหวานเนื้อได้สบายๆ เพราะสิ่งที่ผมไปหลงติดอยู่ไม่ใช่เนื้อแต่เป็นรสอร่อยของแกงเขียวหวานต่างหาก
แต่แกงเขียวหวานนี่กินมากๆ ต้องระวังสุขภาพ เพราะมีทั้งกะทิ ทั้งพริกแกง วัตถุดิบฤทธิ์ร้อนทั้งนั้นผมกินเข้าไป สิวขึ้นเต็มหน้าเลย ทั้งๆที่ไม่เคยมีสิวมานาน คงเพราะกินแต่ขนมจีนแกงเขียวหวานอย่างเดียว ร่วมสองวันนั่นแหละนะ
ขนมจีนแกงเขียวหวาน เป็นเมนูที่เหมาะจะทำกินในครอบครัว กินกันหลายๆคน ทำครั้งเดียวเก็บไว้กินนานๆ ปรับวัตถุดิบที่ใส่ได้ตามชอบ ใครอยากใส่ผักอะไรก็หามาใส่กัน
คงจะมีคนที่เคยกินมังสวิรัติไปสั่งข้าวราดแกงเขียวหวาน ใส่แต่มะเขืออย่างผมมั่งละนะ แต่ถ้าทำเอง เราก็สามารถจัดการใส่ ตามที่เราต้องการโดยไม่ต้องกังวลว่าเขาจะตักเนื้อมาปนเลย สบายใจดี
ถั่วต้มรวมมิตร
หลายๆคน คงสงสัยว่ากินมังสวิรัติแล้วเอาโปรตีนจากไหน ก็ต้องแนะนำถั่วและธัญพืชกันต่างๆเลยนะครับ โปรตีนเพียบ ดีกับร่างกายด้วย
ถั่วนี่จะกินถั่วอะไรก็ได้ แต่เลือกให้เหมาะกับสุขภาพ และสภาพแวดล้อมขณะนั้น ซึ่งถั่วเองก็จะมีแบ่งเป็น ฤทธิ์ร้อน ฤทธิ์เย็น …มันร้อนมันเย็นยังไง อันไหนเป็นอันไหน ก็จะนำข้อมูลมาแบ่งให้กันครับ
ธัญพืชฤทธิ์ร้อน ได้แก่ Brazil Nut, แมคคาเดเมีย, Walnut, เม็ดบัว, อัลมอนด์, ถั่วแดงหลวง, งาขาว ,งาดำ , เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ถั่วปากอ้า,พิสตาชิโอ,ถั่วดำ, ถั่วลิสง, ถั่วแดงเล็ก และเกาลัด เป็นต้น
ธัญพืชฤทธิ์เย็น ได้แก่ ถั่วขาว ถั่วเขียว ถั่วเขียวซีก ถั่วแระ ถั่วเหลืองซีก ถั่วเหลือง ถั่วโชเล่ยหรือ ถั่วลูกไก่ ลูกเดือย ถั่วลันเตา เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติมได้ใน http://morkeaw-nutrition.blogspot.com/

ถั่วรวมมิตรของผม ในถ้วยนี้ก็จะมีถั่วเขียว ถั่วดำ ปนกันครับ เอาร้อนเย็นมาผสมกันเลย กินเข้าไป ร่างกายจะดึงไปปรับสมดุลเอง จะช่วยให้เป็นยา และแหล่งโปรตีนเพื่อร่างกายของเราด้วย
การทำถั่วต้มผมก็จะแช่น้ำไว้ก่อนประมาณ 1 คืน เพื่อให้ถั่วนิ่ม และนำมาล้างและต้มในวันถัดมา ซึ่งจะใส่น้ำตาลมาก น้อย หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้แล้วแต่ชอบ ถ้าให้ดีก็ใส่ให้น้อยที่สุดหรือไม่ใส่เลยก็จะดีต่อสุขภาพ แต่หากต้องการพลังงานหรือน้ำตาล ก็สามารถใส่เติมเท่าที่จะสบายก็ได้
ถั่วต้มรวมมิตร เป็นเมนูที่เป็นของหวานที่มีประโยชน์มากๆ สามารถปรับถั่วได้ตามที่ชอบ และปรับตามสภาวะของร่างกายเพื่อเป็นยารักษาโรคได้ด้วย
ส่วนใครที่ไม่อยากกินถั่วต้มน้ำตาล ก็อาจจะใส่พร้อมกันไปในเวลาหุงข้าว จะได้กินพร้อมกันทีเดียวกับข้าว ก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งเหมือนกันนะ

ผัดกะเพราเห็ดนางฟ้า ผัดกะเพราเป็นเมนูที่ผมทำไม่บ่อยนัก แต่ก็ชอบมาก เพราะว่าอยู่บ้านเช่า ไม่มีต้นกะเพรา ต้องคอยซื้อเขากิน ก็ลำบากอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะไม่มีตู้เย็น เก็บไว้เกินหนึ่งวันก็เหี่ยวแล้ว


ึความคิดเห็นล่าสุด