Tag: ประหยัด

ยอดคะน้ากับเต้าหู้ผัด

January 20, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 6,283 views 0

ยอดคะน้ากับเต้าหู้ผัด

ยอดคะน้ากับเต้าหู้ผัด

ลดเนื้อกินผักนี่ประหยัดจริงๆ ที่เห็นจานนี้ตักมา2/5จากที่ผัด ยอดคะน้า 10 บาท เต้าหู้ 10 บาท ผัดทีเดียวกินได้หลายมื้อ

ปริมาณเยอะกว่าที่ได้จากร้านอาหารตามสั่งเยอะ ถ้าตักใส่จานแบบร้านอาหารตามสั่งก็ได้ประมาณ 3-5 จาน

ทุนอื่นๆก็อีกนิดหน่อย พริก กระเทียม น้ำมัน น้ำตาล เกลือ ซีอิ้วขาวเหมาๆไป 5 บาทแล้วกัน ข้าวก็อีก 5 บาทแล้วกัน

สรุปทุนอาหารสำหรับกินทั้งวัน กับข้าวหนึ่งอย่าง 30 บาท ประหยัดกันสุดๆเลยงานนี้ ถ้าทำแบบระมัดระวังไม่ฟุ่มเฟือยก็สามารถคุมงบอาหารให้อยู่แค่เดือนละประมาณ 1,000 บาทได้สบายเลยทีเดียว

เงินที่เหลือจากความอยาก ก็เอาไปทำประโยชน์อื่นๆได้ตามสมควร ดีไหมล่ะ มาลดเนื้อกินผักกัน

เฝอหม้อไฟ

January 19, 2015 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,608 views 0

เฝอหม้อไฟ

เฝอหม้อไฟ

วันก่อนอากาศเย็นๆ เลยอยากกินอะไรเผ็ดๆร้อนๆ จึงไปกินเฝอหม้อไฟ!!

เดี๋ยวนี้ร้านชาบู หรือพวกหม้อไฟมีเยอะและหลากหลายมาก ไม่ได้มีแต่สุกี้เหมือนก่อน ซึ่งก็เป็นตัวเลือกให้เราได้ โดยมากมักจะขายเป็นราคาต่อจาน สำหรับผู้กินแต่ผักอย่างเรา ราคาไม่แพงเลย

อย่างร้านนี้ผัก1ชนิด/ถาด ก็เริ่มต้นแค่ 10 บาท เท่านั้นเอง จะมีแพงขึ้นมาก็ข้าวโพดอ่อน หรือเห็ดก็จะแพงที่สุดสำหรับคนกินผักอย่างเรา

มื้อนี้สั่งเต็มที่ เต็มอิ่ม กินสองคนหมดไป 225 บาท… ได้ยินโต๊ะข้างๆเชคบิล เขามากันเป็นคู่ชายหญิงตัวโต กินไป 1,200 บาท …หูคงไม่แว่วไปเอง

เห็นได้ชัดว่าลดเนื้อกินผักประหยัดสุดๆเลย นี่แบบว่าสั่งให้หลากหลายนะ มาคราวก่อนจ่ายไปแค่คนละร้อย…

กินจืดดีอย่างไร

September 17, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 11,603 views 0

กินจืดดีอย่างไร

กินจืดดีอย่างไร

พอพูดกันถึงอาหารจืด หลายคนก็คงจะส่ายหัวส่ายหน้ากับอาหารที่ไร้รสชาติ ให้กินฟรีก็คงไม่เอา ใครเล่าจะอยากกินอาหารจืด โลกทุกวันนี้มีแต่คนแสวงหาอาหารอร่อย อาหารรสเด็ด อาหารที่รสดีจนยากจะลืมเลือน จนลืมไปเลยว่าโลกนี้ก็มีรสจืดอยู่เหมือนกันนะ

พอคิดถึงอาหารรสจืด อาหารที่ดูจืดๆชืดๆ ก็พาให้นึกถึงอาหารในโรงพยาบาล อาหารคนป่วย ทำไมคนที่ป่วยควรจะกินอาหารจืด แล้วทำไมคนที่สุขภาพดีจึงไม่กินอาหารรสจืด อาหารรสจืดดีอย่างไร เราลองมาแลกเปลี่ยนกัน

1.กินจืดประหยัด

เมื่อเราเลือกกินอาหารจืด ถ้าเราทำอาหารกินเอง เครื่องปรุงที่ใช้จะถูกลดปริมาณลง ความหลากหลายของเครื่องเทศจะลดลง เราจะลด กลิ่น รส ลงในปริมาณที่ไม่จัดจ้านมากเกินไป นำมาซึ่งความประหยัดในค่าใช้จ่ายในเรื่องเครื่องปรุง

และจะยิ่งประหยัดขึ้นอีกเมื่อเรากินอาหารนอกบ้าน หากเราเป็นคนที่กินจืดได้อย่างปกติ เราก็จะเลือกกินอาหารที่มีคุณค่า ไม่ต้องไปตระเวนหาร้านอร่อย ที่มีราคาแพง ระยะทางไกล ต้องต่อคิวนาน กันอีกต่อไป ในเมื่อเรากินจืดแล้ว จะร้านที่เขาว่าอร่อยร้านไหนก็จะไม่อร่อยเหมือนกันหมด นั่นก็เพราะคนที่กินจืดได้อย่างปกติจะกินอาหารรสจัดลำบาก นั่นทำให้รสชาติที่ทำให้รู้สึกดีที่สุดคือรสจืด สุดท้ายก็กลับมากินร้านอาหารที่รู้ใจกับแม่ครัวที่คุ้นเคยกันเหมือนกัน ประหยัดทั้งค่าอาหารและค่าเดินทางแล้วยังประหยัดเวลาอีก

2.กินจืดสุขภาพดี

การกินอาหารที่มีการปรุงแต่งน้อย หรือมีรสจืด จะทำให้ร่างกายไม่ต้องรับภาระในการขจัดของเสียที่มากเกินไป ไตไม่ต้องทำงานหนัก มีผลทำให้ร่างกายสามารถนำพลังงานที่จะไปย่อยหรือไปจัดการกับสารอาหารส่วนเกิน เปลี่ยนมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอแทน จึงทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่ป่วยง่าย ห่างไกลจากโรคอ้วน โรคไต และโรคที่เกิดจากการกินอื่นๆอีกมากมายรวมไปถึงมะเร็งด้วย

เมื่อเรามีสุขภาพดี ก็จะทำให้เราประหยัดค่ารักษาพยาบาล ค่าหมอ ค่าจิปาถะต่างๆที่เกิดจากการเจ็บป่วยจากการกินอาหารรสจัด ดังนั้นการกินอาหารจืดจึงเป็นหลักประกันสุขภาพที่ดี เป็นการทำประกันสุขภาพที่ไม่ต้องจ่ายเบี้ยรายปี ไม่ต้องลงทุน เพียงแค่สละความอยากกินอาหารรสจัดออกไป

และเมื่อเรากินอาหารจืดไปนานวันเข้า จะพบว่าลิ้นสามารถรับรสได้ดีขึ้น ละเอียดขึ้น สามารถรับรู้ได้ถึงรสชาติที่มีอยู่ในวัตถุดิบต่างๆได้อย่างละเอียดละออมากขึ้น เมื่อเรากลับไปกินรสจัดอย่างเดิมก็อาจจะพบว่าเราไม่สามารถกิน เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขม เผ็ด จัดได้อย่างเดิมอีกต่อไป เราจะรู้ได้เองว่ารสมันจัดเกินจะกินไหว จนอาจจะกลายเป็นภัยต่อสุขภาพ

3.กินจืดมีความสุข

การกินจืดนั้น ยังมีผลที่น่าสนใจคือความสุขจากการไม่เสพ เมื่อเราสามารถกินจืดได้อย่างปกติหรือกินจืดได้อย่างมีความสุข เราจะไม่ต้องการไปกินอาหารรสจัดอีก ถึงจะไปกินอาหารรสจัดก็จะไม่รู้สึกสุขเหมือนเมื่อก่อน แต่เมื่อกินรสจืดกลับรู้สึกมีความสุข มีความสุขได้แม้จะไม่ได้กินอาหารที่อร่อย ถึงจะต้องกินอาหารที่ไม่มีรสชาติขนาดไหนก็ยังมีความสุขได้

ต่างจากคนที่ติดรสอร่อย หรืออาหารรสจัด เขาจะต้องทุกข์เมื่อไม่ได้กินของอร่อย และทุกข์มากขึ้นไปเรื่อยๆ เมื่อของที่เคยอร่อยกลับไม่อร่อย จนต้องแสวงหา เสียเวลา เสียเงิน ไปหาของอร่อยกิน ได้กินก็เกิดสุข แต่สุขจากเสพนั้นไม่นานก็หายไป แม้ไม่ได้กินก็ทุกข์ หรือได้กินแต่ไม่อร่อยสมอยากก็ทุกข์อีกมีแต่ทุกข์กับทุกข์

คนกินจืดจะพ้นจากความทุกข์ที่จะเกิดเหล่านี้ เป็นความสุขแบบเรียบๆที่เราจะได้รับ สุขแบบยั่งยืน สุขจากการไม่ได้กินอาหารรสจัด สุขจากการไม่เสพความอร่อย เป็นสุขที่สวนกระแสโลก สวนกระแสกิเลส เป็นสุขที่พาให้เกิดความเจริญ

….การกินจืดนั้น ยังมีประโยชน์ต่อเราและคนอื่นอีกมากมายนัก เมื่อเห็นประโยชน์ของการกินจืดดังนี้ เราจึงควรพิจารณาข้อดีของการกินจืด และข้อเสียของการกินอาหารรสจัด เพื่อที่จะเข้าสู่การกินจืดอย่างมีความสุข เพื่อความประหยัด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อความสุขที่ยั่งยืน

มังสวิรัติ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป

July 2, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,678 views 0

มังสวิรัติ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป

การเริ่มต้นคิดจะลองกินมังสวิรัติสามารถทำได้ไม่ยาก เพราะมีร้านอาหารที่ขายอาหารมังสวิรัติ หรืออาหารเจอยู่มากมายแต่การที่จะเปลี่ยนมากินมังสวิรัติอย่างจริงจังนั้นไม่ง่าย เพราะการจะพึ่งพาร้านอาหาร หรือสถานที่ที่เราคุ้นเคยนั้นจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้การปรับตัวเมื่อปัจจัยเปลี่ยนแปลง เช่น เมื่อต้องเดินทางออกไปในสถานที่ที่ไม่รู้จัก เมื่อต้องทานอาหารร่วมกับผู้อื่น  เป็นต้น

จุดประสงค์หรือปลายทางของผู้ที่คิดจะกินมังสวิรัตินั้น แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือต้องการจะลดการเบียดเบียนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป หากเราได้มีการวางแผน ลำดับการเรียนรู้และพัฒนาการกินมังสวิรัติของเราให้ได้สมบูรณ์ขึ้นไปเรื่อยๆ  ค่อยๆ ลด ละ เลิก การกินเนื้อสัตว์ไปตามลำดับ โดยที่ไม่บีบบังคับให้ตัวเองเกิดความทุกข์ ทรมานจากความโหยหาอยากกินเนื้อสัตว์จนเกินไป  และไม่เวียนกลับไปกินเนื้อสัตว์เป็นประจำอย่างเดิมเพราะทนความอยากไม่ไหว

ถ้าเราไม่เคยเรียนรู้การกินมังสวิรัติ เราอาจจะพบปัญหา กินได้ไม่นานก็เลิก, กินตามคนอื่นเขาไปโดยไม่รู้ว่ามันดีอย่างไร, ทนกินไปเพราะคนอื่นเขาว่ามันดูดี, กินไปก็ไม่มีความสุข, กินไปก็ทรมาน เพราะใจจริงก็ยังอยากกินเนื้อสัตว์อยู่ สุดท้ายก็กลับไปกินเนื้อสัตว์ ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดเลย ถ้าเราพยายามเรียนรู้ที่จะ ลด ละ เลิก ไปตามลำดับที่เราทำไหว โดยตั้งใจที่จะพัฒนาสู่ความเบียดเบียนที่น้อยลงเรื่อยๆ อย่างมีความสุข

…การเริ่มต้นโดยลำดับ ลด ละ เลิก

ลด…. ผู้ที่สนใจหรือต้องการเริ่มต้นกินมังสวิรัติ ควรจะทดลองลดการกินเนื้อสัตว์ดูก่อน ลดในรูปแบบชนิดของสัตว์ ลดจากสัตว์ใหญ่ไปหาสัตว์เล็ก เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา อาหารทะเล แมลง ไข่ นมสัตว์ เป็นการลดการฆ่าและการเบียดเบียนไปตามลำดับ และเรายังสามารถลดปริมาณการกินเนื้อสัตว์ด้วยก็ได้ เช่น การปรับเปลี่ยนเมนูอาหารสู่การลดการใช้เนื้อสัตว์ เปลี่ยนวัตถุดิบจากเนื้อสัตว์กลายเป็นผัก กินอาหารที่ผสมผักในอัตราส่วนที่มากขึ้น เพิ่มผักในแต่ละมื้อให้มากขึ้น ลดการกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลงไป ค่อยๆลดไป จนรู้สึกว่าสามารถทำได้มากกว่า การลด

ละ…. เมื่อมีกำลังใจมากพอ จนรู้สึกว่าสามารถลดการกินเนื้อสัตว์ได้มากแล้ว ให้ลองละเว้นการกินเนื้อสัตว์ เป็นช่วงเวลา เช่น ไม่กินเนื้อสัตว์ในมื้อเย็น, ไม่กินเนื้อสัตว์วันเสาร์อาทิตย์, ไม่กินเนื้อสัตว์สัปดาห์แรกของเดือน, ไม่กินเนื้อสัตว์ในเดือนเกิด, ไม่กินเนื้อสัตว์ช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน ในการละนี้ อาจจะละเป็นชนิด เช่น ละเนื้อวัวช่วงเวลาหนึ่ง เนื้อวัวหมูไก่ช่วงเวลาหนึ่ง หรืออาจจะละเว้นการเบียดเบียนใดๆก็ตามในช่วงเวลาหนึ่งก็ได้ ละเท่าที่สามารถทำได้ในขีดที่ไม่ทรมานร่างกายและจิตใจตนเองมากเกินไปจนรู้สึกทุกข์ จนเข็ดขยาดกับการกินอาหารมังสวิรัติ โดยให้เพิ่มช่วงเวลาและชนิดของการละเว้นให้มากขึ้น มากขึ้นจนมั่นใจว่าเราละได้อย่างสบายใจ และรู้สึกยินดีที่ได้ละเว้น

เลิก…. เมื่อเราเรียนรู้ที่จะกินมังสวิรัติได้มากพอที่จะมั่นใจว่า สามารถเลิกได้แล้ว อาจจะมีอารมณ์คิดถึง อยากกินอยู่บ้าง เผลอไปกินอยู่บ้าง ทั้งๆที่ใจนั้นไม่ได้อยากกิน หรืออยากเสพรสในเนื้อสัตว์นั้นแล้ว ก็ให้ตั้งใจที่จะเลิก เลิกกินเนื้อสัตว์นั้นๆไปเลย เลิกให้มันออกจากชีวิตไปเลย ไม่มีการอนุโลมว่าจะไปกินในกรณีใดๆ ใครชวนก็ไม่เอา ให้ฟรีก็ไม่เอา พาไปเลี้ยงแถมเงินให้ก็ไม่เอา แม้คนที่เคารพ มีบุญคุณ มีผลประโยชน์ จะหว่านล้อมให้เรากิน เราก็ไม่กิน

ในด่านของการเลิก เรามักจะเจอเหตุการณ์ที่พาให้เราหลงกลับไปกินได้อยู่บ่อยครั้ง อาจจะเป็นเพราะเรากลัวคนอื่นลำบากใจ กลัวคนนินทา โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องเข้ากลุ่มสังคม หรือแม้กระทั่งในใจลึกๆก็ยังอยากกินอยู่ และเรามักจะใช้เหตุอื่นๆเป็นข้ออ้างในการกลับไปกินเนื้อสัตว์ มีข้ออ้างมากมายทำให้กลับไปกินเนื้อสัตว์ ความคิดที่ว่ากินไปเถอะอย่าคิดมากเลย เริ่มไม่จริงจัง ปล่อยวางก่อนเวลาอันควร กลายเป็นเหยาะแหยะ ครึ่งๆกลางๆ นั่นแหละตัวกิเลส กิเลสคือนักหาเหตุผลที่จะทำให้กลับไปเสพที่เก่งที่สุดในโลก (ของแต่ละคน)  ณ จุดที่ตัดสินใจจะเลิก จะต้องเด็ดขาด จริงจัง ยอมถวายชีวิตกันไปเลย ไหนๆ วัว หมู ไก่ ปลา กุ้ง ปลาหมึก ฯลฯ มันก็เคยตายเพื่อ(กิเลส)เรามาเยอะแล้ว ในครั้งนี้เราจะยอมจริงจังเพื่อมันบ้าง

การ ลด ละ เลิก จะไม่สามารถพัฒนาได้เลย หากขาดการเรียนรู้และพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง การหาข้อมูลเกี่ยวกับมังสวิรัติ ความจริงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ทุกครั้งที่เราคิดจะกินหรือไปกินเนื้อสัตว์มาแล้ว ให้พึงระลึกไว้ว่าเราได้มีส่วนสร้างกรรม อันคือความเบียดเบียนให้แก่สัตว์อื่นแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นจะเวียนกลับมาเป็น ทุกข์ โทษ ภัยสู่ตัวเราเอง พิจารณาโทษของการกินเนื้อสัตว์ ความไม่สบายร่างกาย อึดอัดแน่นท้อง ปวดเมื่อย โรคภัยไข้เจ็บ พิษและสารเคมีตกค้าง ความสิ้นเปลือง ฯลฯ โดยให้รู้ว่าความอยากกินเนื้อสัตว์มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เราไปหาอะไรกินให้อิ่มเดี๋ยวมันก็จะลืมไปเอง แท้จริงแล้วความอยากในการกินเนื้อสัตว์มันก็ไม่ใช่สาระอะไรของชีวิตเลย ซ้ำยังเป็นเหตุแห่งทุกข์ให้เราเกิดความอยาก จนต้องลำบากหาเนื้อสัตว์มากินอีก ทั้งที่จริงก็ได้มีการพิสูจน์กันมากมายแล้วว่า การกินมังสวิรัติก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรง มีกำลัง เหมือนอย่างคนทั่วไปและที่เหนือกว่าคนทั่วไปก็มี และประโยชน์ในการเปลี่ยนเข้ามาสู่การกินมังสวิรัติ ไม่ว่าจะเป็นความสบายใจ สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ประหยัด บุญและกุศล พยายามหาข้อดี หาประโยชน์ที่ชวนให้เห็นข้อดีตามจริงของการกินมังสวิรัติ หาความรู้กันไปพิจารณาทบทวนกันไปสักวันหนึ่งก็จะเจริญขึ้นเอง

สุดท้าย…. เมื่อเราเลิกได้แล้ว เมื่อเห็นก็รู้สึกว่าไม่อยากกินแล้ว มีโอกาสที่จะได้กิน ก็ยินดีที่จะไม่กินอย่างมีความสุข สบายใจ ไม่โหยหา ไม่เสียดาย ไม่คิดถึง ไม่กังวล ที่ไม่ได้กินเนื้อสัตว์เหล่านั้น แม้จะลองกลับไปทดลองกินก็ไม่ได้เกิดความสุขอย่างที่เคยมีในสมัยยังเสพติดเนื้อสัตว์อีกแล้ว ความสุขจากการเสพมันหายไปจนรู้สึกได้ว่ามันไม่มีอะไรเลย เป็นรสสัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง มีรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขม เผ็ด ที่เป็นไปตามการปรุงแต่งธรรมดาของอาหาร กลับกลายเป็นว่าเมื่อไม่กินจะมีความสุขมากกว่า ยินดีที่จะสละเนื้อสัตว์ สละการเบียดเบียนออกไปจะดีกว่าที่ต้องไปกิน เมื่อนั้นแหละ ที่เราได้รางวัลมาแล้ว คือความสุขที่เกิดขึ้นแม้จะไม่ได้กินเนื้อสัตว์ ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องดีใจหรือเสียใจเมื่อได้เสพหรือไม่ได้เสพอีกต่อไป เป็นอิสระจากความอยากกินเนื้อสัตว์ อย่างแท้จริง

และเราก็สามารถที่จะมองสัตว์เหล่านั้นได้อย่างเต็มตา แม้ว่าจะต้องเห็นภาพพวกมันถูกทรมาน หรือถูกฆ่า ก็ไม่ต้องแบกความรู้สึกละอายต่อบาป เพราะเราเลิกเบียดเบียน ไม่มีส่วนแห่งบาปนั้นอีกต่อไป

จะเห็นได้ว่าการกินมังสวิรัติที่เบียดเบียนน้อยที่สุดนั้นทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินความพยายามของเรา…

บะหมี่ในปั้ม

May 11, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,769 views 0

ใช่ว่ากินมังสวิรัติจะลดค่าใช้จ่ายได้เสมอไป บางทีก็แพงเหมือนกัน แล้วแต่ที่ แล้วแต่จังหวะ แล้วแต่ความคุ้นเคยของแม่ค้า ฯลฯ

ระหว่างขับรถกลับกรุงเทพฯ ผมแวะปั้มแห่งหนึ่ง มีศูนย์อาหารเล็กๆ มองหาอะไรที่กินง่ายๆ จะได้เดินทางต่อ ก็มาเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว เลยเข้าไปสั่ง ” บะหมี่น้ำใส่แต่ผัก เอาบะหมี่ 3 ก้อนนะครับ ” สรุปชามนี้ 50 บาท… แพงใช้ได้ ค่าเช่าเขาคงแพงเนาะ ไม่ว่ากัน

บะหมี่ในปั้ม

ถ้าเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน อย่างมากก็ 30 บาทนะ  เวลาเราไปสั่งที่ไหนก็อย่าไปยึดติดว่า ต้องราคาถูกเสมอไป เพราะบางทีเขาก็นับจำนวนจานที่ขายออก บางครั้งเขาก็ไม่คุ้นกับเมนูที่ไม่มีใครเคยสั่ง อะไรต่อมิอะไรมากมายให้เป็นปัจจัยผันผวน ในด้านราคา

แต่ของเขาก็อร่อยดีนะ ไม่ได้ปรุงเพิ่มสักเท่าไหร่ เพราะปกติจะกินรสใกล้ๆ รสจืดแล้ว แต่ก่อนกินรสจัดมาก น้ำตาลสองช้อน พริก 1 ช้อน ทำลายร่างกายกันไปเลย เดี๋ยวนี้พอกินจืดจะรู้รสน้ำซุปเขาได้ดีขึ้นด้วยล่ะ

Veggie Kitchen

บะหมี่ในปั้ม บะหมี่นี่เป็นอาหารที่หากินง่ายจริงๆ อย่างน้อยในปั้มใหญ่ๆก็ต้องมี ถ้าอยากซดน้ำ พร้อมกินเส้นกันเบาๆ ก็ไม่ยากนักที่จะหากิน ถ้าเป็นบะหมี่สำเร็จรูปมังสวิรัติก็มีขายกันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้กิน ถ้าเจอร้านอาหาร ก็จะกินร้านอาหารมากกว่า เพราะนอกจากอิ่มแล้ว ราคารวมก็น่าจะประหยัดกว่าด้วยนะ

เห็ดเข็มทองผัด

May 8, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,402 views 0

ไปกินข้าวบ้านเพื่อน มีหนึ่งในเมนูของกินเล่นในหลายๆเมนูที่เพื่อนทำ ก็คือเห็ดเข็มทองผัด เป็นของกินเล่นที่ชาวมังสวิรัติน่าจะชอบ

เห็ดเข็มทองผัด

น่าจะผัดกับซีอิ้วนะ จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้าผมทำเองก็คงผัดกับซีอิ้ว กระเทียม หรือไม่ก็เอาไปผัดเนยให้หอมๆ เอามาจิ้มมายองเนสก็คงอร่อยดี แต่เพื่อนผัดมาก็อร่อยดี กินเพลินหมดไว เห็ดเข็มทอง แพคหนึ่ง ถ้ากินเล่นๆไป

Veggie Kitchen

เห็ดเข็มทองผัด เป็นเมนูกินเล่นที่ทำได้ง่าย เด็ก ผู้ใหญ่ ชอบกันทุกคน แถมดัดแปลงได้มากมายหลากหลาย ทำเองก็ประหยัดมากด้วย หากไปกินในร้านอาหารจะพบว่าเห็ดเข็มทองแพงมาก แต่ถ้าซื้อจากในห้างมาทำกินเองถูกมากเลยทีเดียว