Veggie Bear (Author's Website)
แซนวิซเห็ดชุบแป้งทอด
แซนวิซเห็ดชุบแป้งทอด : เป็นเมนูที่กินเล่น จนไปถึงทำให้อิ่มกันได้เลย
ชาวมังฯ ที่กังวลเวลาที่จะต้องออกไปสถานที่ไม่คุ้นเคย หรือมีการงานที่เร่งรีบในวันนั้นๆ อาจจะวางแผนเรื่องอาหารล่วงหน้าไว้เลยก็ได้
ซึ่งแซนวิชก็เป็นคำตอบหนึ่งที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก รวดเร็ว กินง่าย ใครชอบซอสใส่ซอส ใครชอบน้ำสลัดก็ใส่น้ำสลัด ใครชอบรสไหนก็ใส่ไป เราก็เอาให้กินง่ายและผ่านมื้อที่เร่งรีบนั้นกันไปได้ง่ายๆ
ผัดโต้วเหมี่ยว
ผัดโต้วเหมี่ยว : ไปเจอโต้วเหมี่ยวลดราคา ไม่รู้จักหรอก แต่เคยได้ยินชื่อ เลยซื้อมาลองดู
โต้วเหมี่ยวคือต้นอ่อนของถั่วลันเตา มองๆไปก็อารมณ์คล้ายๆถั่วงอก แต่เมื่อลองผัดกินแล้วก็พบว่ามีสัมผัสที่แตกต่างกันมาก เพราะรู้สึกว่าจะเหนียว เคี้ยวได้เต็มคำกว่าถั่วงอกที่กัดลงไปแล้วกรอบ หัก หายไปเลย
ใครที่ชอบอาหารที่มีรสสัมผัสหรือต้องเคี้ยวเยอะๆ นี่ลองโต้วเหมี่ยวดูก็ได้นะ
จานนี้ผัดกับกระเทียม ซีอิ้วขาว เกลือ น้ำตาล น้ำมัน แค่นี้แหละ ง่ายจัง
ผัดต้นอ่อนทานตะวัน
ผัดต้นอ่อนทานตะวัน : ต้นอ่อนทานตะวันเป็นวัตถุดิบที่รู้จักมาเมื่อไม่นานมานี้ เอามาแทนถั่วงอกได้ ก็ได้รสสัมผัสและคุณค่าต่างออกไปจากถั่วงอกเหมือนกัน
ชาวมังฯคนไหน เบื่อๆ ผัดถั่วงอก หรืออยากลองอะไรที่อารมณ์ใกล้ๆกันก็สามารถหาวัตถุดิบอื่นๆมาลองทำกินดูก็ได้
ขนมไข่นกกระทา
ขนมไข่นกกระทา : บ้างก็เรียกขนมไข่เต่า ชื่อว่าไข่ แต่ไม่มีไข่เป็นส่วนผสมนะ มีแต่แป้งและมัน เป็นขนมทอดที่กินง่ายพอดีคำ เป็นที่นิยม หาซื้อได้ทั่วไป
อย่าเสียดาย (ภาคปฏิบัติ ณ ร้านก๋วยเตี๋ยว)
อย่าเสียดาย (ภาคปฏิบัติ ณ ร้านก๋วยเตี๋ยว)
อย่างที่เราได้เรียนรู้กันแล้วว่า ความเสียดายนั้น ทำให้เราไม่สามารถที่จะลดเนื้อกินผักได้อย่างราบรื่น เมื่อมีความเสียดายเกิดขึ้น ด้วยเหตุแห่งความอยากนั้น ก็จะทำให้เราวนกลับไปกินเนื้อสัตว์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะพยายามหนีออกมาเท่าไหร่ แต่เมื่อใจยังเสียดายชิ้นเนื้อที่อยู่ตรงหน้า ก็ยากจะผ่านแบบทดสอบนี้ไปได้
ในตอนนี้จะขอเล่าไปถึงเรื่องราวของคนที่ใช้ชีวิตในเมืองคนหนึ่ง ในสมัยที่เธอยังหัดกินมังสวิรัติใหม่ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนเที่ยงวันหนึ่ง ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เธอตั้งใจจะลดเนื้อกินผัก แต่ก็ยังไม่ข้ามพ้นด่านของความเกรงใจ จึงกังวลใจไปเองว่า ถ้าสั่งแต่เส้นกับผักทางร้านจะไม่ได้กำไร จึงสั่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นมา
ในชามก๋วยเตี๋ยวมีลูกชิ้นอยู่ 6 ลูก เธอแบ่งลูกชิ้นให้กับเพื่อนร่วมโต๊ะ เพราะตั้งใจจะ “ลด” การเสพเนื้อสัตว์ โดยแบ่งออกไปให้เพื่อนร่วมโต๊ะที่ยังกินเนื้อสัตว์ 4 ลูก จึงเหลือในชามของเธอเอง 2 ลูก
ในขณะนั้นเอง ด้วยเหตุที่เธอได้ศึกษาศาสนาพุทธมาบ้าง ฟังธรรมบ้าง ทบทวนธรรมบ้าง ตรึกตรองใคร่ครวญธรรมบ้าง จึงได้เกิดระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า “ บาปแม้น้อยนิด อย่าทำเสียเลยดีกว่า ” เมื่อนึกได้ดังนั้นแล้ว ใจจึงเกิด หิริ คือความละอายต่อบาป และ โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาปนั้น
เมื่อเกิดความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เวรภัย ของการครองความอยากหรือกิเลสนั้นอยู่ ก็ได้มีความคิดขึ้นว่า แบ่งลูกชิ้นให้เพื่อนหมดเลยเสียดีกว่า ว่าแล้วเธอก็ได้สละลูกชิ้นทั้งหมดให้เพื่อนไป จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาจากฐานของการ ”ลด” มาเป็นฐานของการ “ละ” ซึ่งเกิดได้จากการที่เธอนำเอาธรรมะเข้ามาพิจารณาร่วมในชีวิตประจำวันด้วย จึงทำให้การกินมังสวิรัติพัฒนาและเจริญขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
และเมื่อตกเย็น เธอก็ได้ไปซื้อของที่ตลาดสด ตั้งใจไว้ว่าจะซื้อแค่ถั่วลันเตา แต่พอซื้อแม่ค้าก็แถมเห็ดให้ด้วย เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นถึงอานิสงส์ของการสละลูกชิ้นได้อย่างชัดเจน เมื่อสละกิเลส คือความอยากกินลูกชิ้นนั้นออกจากใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับลูกชิ้นกลับมาเสมอไป อาจจะเป็นเห็ดก็ได้ อาจจะเป็นรอยยิ้มก็ได้ อาจจะเป็นความรู้สึกดีๆก็ได้ อาจจะเป็นอะไรก็ได้ เพราะผลของกรรมเป็นเรื่องอจินไตยคาดเดาไม่ได้ แต่เรื่องที่รู้ได้แน่ชัดคือ เธอข้ามผ่านด่านของกิเลสไปอีกขั้น เจริญขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง
ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อเราข้ามพ้นความเสียดายเนื้อสัตว์เหล่านั้น ก็จะมีสิ่งที่ดีกว่าอยู่ข้างหน้าเสมอ อย่างน้อยๆก็จะไม่ต้องเจอกับความทุกข์ใจที่ต้องแบกความอยาก ความเสียดายเหล่านั้นเอาไว้อีกต่อไป เพียงแค่นั้นก็สุขมากพอที่จะยอมทิ้งความเสียดายเหล่านั้นแล้ว
ึความคิดเห็นล่าสุด