Tag: ศรัทธา

กินมังสวิรัติหลายคนดีกว่ากินคนเดียว

September 21, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 2,000 views 0

กินมังสวิรัติหลายคนดีกว่ากินคนเดียว

กินมังสวิรัติหลายคนดีกว่ากินคนเดียว

ขึ้นชื่อว่าการลดเนื้อกินผักก็เป็นความคิดที่ค่อนข้างทวนกระแสโลกอยู่แล้ว การกินมังสวิรัติ กินเจ ในทุกวันนี้ เป็นเพียงคนกลุ่มน้อยที่คิดจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่างที่เขาเหล่านั้นคิดว่าเบียดเบียนตัวเองและคนอื่น

การสวนกระแสโลก คือไม่ไปกินเนื้อสัตว์ตามเขา ไม่เสพสุขจากเนื้อสัตว์ตามเขา ก็ถือว่าเป็นการท้าทายต่อกิเลส สวนกระแสกิเลส ที่เราต้องใช้ทั้งกำลังใจในการหักห้าม ขัดขืนกับพลังแห่งความอยาก และใช้พลังปัญญาพิจารณาผลเสียของการกินเนื้อสัตว์ และพิจารณาผลดีของการกินผัก พิจารณาไปซ้ำๆ จนกว่าจะเกิดความเข้าใจ จนกว่าจะเกิดศรัทธา เชื่อมั่นในคุณค่าแห่งการลดเนื้อกินผัก

การสวนกระแสกิเลสนั้นยากยิ่งกว่าการเดินทวนกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ดังนั้นการเดินคนเดียวอาจจะยากเกินไปสำหรับการเดินผ่ากระแสความอยากกินเนื้อสัตว์ที่หนักหน่วงรุนแรงและยังฝังรากลึกแน่นหนาในจิตใจ

คนที่หัดลดเนื้อกินผักจึงควรหาเพื่อน ครอบครัว หรือกลุ่มสังคมที่พากันกินมังสวิรัติ คอยแบ่งปันแนวคิด แบ่งปันเมนูอาหาร แบ่งปันวิธีการปรับตัว ร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ทำให้เราสามารถที่จะลดเนื้อกินผักได้อย่างยาวนานและยั่งยืนจนกระทั้งสามารถกินได้อย่างสมบูรณ์

เราอาจจะเริ่มจากเพื่อนสักคน ลองชวนกันกินสัก 1 วันในหนึ่งสัปดาห์ก่อน แล้วมาคุยกันว่าดีอย่างไร มีเมนูอาหารอะไรที่กินได้ อาหารแบบไหนที่พอจะกินไหว ร้านแบบไหนที่ควรไป ถ้าอยู่ในงานเลี้ยงต้องทำตัวอย่างไร การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จะทำให้เกิดปัญญาใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งจะเป็นทั้งเพื่อนผู้หาทางออกร่วมกัน เพื่อนผู้ตรวจสอบกัน เพื่อนผู้ที่พากันเจริญ

แต่ถ้ามีเราอยู่คนเดียว และสังคมรอบข้างต่างไม่เอาด้วย ก็ไม่เป็นไร เพราะสมัยนี้มีชุมชนออนไลน์มากมายที่จับกลุ่มกันส่งเสริมการกินมังสวิรัติ กินเจ เราก็เพียงแค่เข้ากลุ่มเหล่านั้น คอยอ่าน ถาม เรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ ในกลุ่มที่มีความคิดเห็นไปในทาง ลด ละ เลิกการเบียดเบียนเหมือนกัน ก็จะสามารถพาตัวเราให้เจริญได้เช่นกัน

และถ้าได้รู้จักกับผู้ที่ลดเนื้อกินผัก กินมังสวิรัติได้อย่างมีความสุข หรือผู้ที่รู้วิธีการที่จะสามารถเข้าสู่ชีวิตมังสวิรัติได้อย่างยั่งยืนก็จะดีที่สุด เพราะสามารถที่จะศึกษาเรียนรู้กระบวนการ วิธี เคล็ดลับ ข้อปฏิบัติสู่การลดเนื้อสัตว์ ลดความอยากกินเนื้อสัตว์ ซึ่งไม่ใช่วิธีเพียงแค่กดข่มให้ความอยากผ่านพ้นไปเพียงวันข้ามวัน แต่เป็นวิธีที่จะลดความอยากได้อย่างยั่งยืน

ส่วนการฉายเดี่ยวกินคนเดียวนั้น ในทางปฏิบัติแล้วเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะพลังของกิเลสมักจะหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมให้เราล้มเลิกอยู่เสมอ พลังของการกดข่ม อดทน ฝืนทนนั้นจะสามารถทนได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายก็จะตบะแตก พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ว่า “มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี เป็นทั้งหมดทั้งสิ้นในการบรรลุธรรม” การบรรลุธรรมนั้นก็หมายถึงการที่เราสามารถเข้าถึงการลดเนื้อกินผัก การกินมังสวิรัติ ได้อย่างมีความสุข มีความสบายใจ มีปัญญานั่นเอง

เมื่อเห็นดังนี้แล้วว่าการรวมหมู่รวมกลุ่มจะทำให้เราเก่งขึ้น เจริญขึ้น เราก็ควรจะหาเพื่อนร่วมทาง ที่พร้อมจะพัฒนาไปสู่สิ่งดีๆร่วมกัน ไว้ใจกัน เชื่อใจกัน ยอมให้ตรวจสอบกันได้ ยอมให้วิจารณ์กันได้ ยอมให้สั่งสอนกันได้ ก็จะพากันเจริญอย่างแน่นอน

วิธีสั่งอาหารมังสวิรัติ ตามร้านอาหารทั่วไป

July 12, 2014 | | มีผู้เข้าชมทั้งหมด 9,509 views 0

วิธีสั่งอาหารมังสวิรัติ ตามร้านอาหารทั่วไป

วิธีสั่งอาหารมังสวิรัติ ตามร้านอาหารทั่วไป

กรณีร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว และร้านอื่นๆในศูนย์อาหารทั่วไป

สำหรับคนที่หัดกิน หรือหาทางกินมังสวิรัติในช่วงเริ่มต้น อาจจะลำบากสักนิดในการปรับตัวให้เข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม ถ้าโชคดีก็อาจจะมีแหล่งหรือร้าน ขายอาหารมังสวิรัติ-เจ ใกล้ๆที่อยู่ ที่ทำงาน ก็สามารถที่จะดำรงชีวิตมังสวิรัติได้ไม่ยากไม่ลำบาก

ในความเป็นจริงแล้ว ร้านอาหารมังสวิรัตินั้นไม่ได้มีมากนัก อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับความสะดวก ที่เอื้อให้ตัวเองได้กินมังสวิรัติง่ายๆ และยังมีข้อจำกัดหลายๆอย่างในการทำอาหารเอง ซึ่งในบทความเนื้อเราจะมาแบ่งปันเกี่ยวกับการหาทางลดเนื้อกินผักให้ได้ แม้ในสภาวะที่มีตัวเลือกน้อย

ร้านอาหารที่เรามักจะพบได้บ่อยคือร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง หรือไม่ก็ร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งถ้าเราสั่งอาหารแบบปกติก็คงจะไม่มีอะไร แต่เรากำลังจะสั่งอาหารที่แปลก ซึ่งอาจจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ไม่คุ้นเคยรู้สึกลำบากใจ ดังนั้นความนอบน้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เราควรใช้ การวอนขอ , ขอร้อง, ขอความกรุณา ให้เขาช่วยทำให้เรา

เช่น ร้านข้าวแกง เราอาจจะบอกเขาประมาณว่า “ จะสะดวกไหมถ้าจะช่วยตักแต่ผักให้ ” , “อยากได้แค่ผัก พอจะตักให้ได้ไหม ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ” ตัวอย่างที่เคยใช้จริงกับแกงมัสมั่น ในศูนย์อาหารแห่งหนึ่ง คือ “แกงมัสมั่นนี่ถ้าจะเอาแต่มันฝรั่ง พอจะขายให้ได้หรือไม่ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ “ สุดท้ายเขาก็ตักมาให้ด้วยความยินดี

ร้านอาหารตามสั่ง เช่น “เอากะเพราใส่เห็ดนะ ใส่แต่เห็ดกับใบกะเพราหรือผัก*อื่นๆ* พอจะทำให้ได้ไหม” จากที่เคยพบมา อาจจะเจอปัญหาเรื่องวัตถุดิบ ตรงนี้เราต้องมีตัวเลือกสำรองไว้เสนอให้เขาทำให้ เช่น ถ้าเห็ดหมด เราก็ถามว่า “ถ้าเป็นกะเพราดอกกะหล่ำ พอจะได้ไหม” เป็นต้น

ร้านก๋วยเตี๋ยว เราก็อาจจะบอกเขาว่า “ เอาแค่เส้นกับผัก พอจะได้ไหม ใส่แค่เส้นกับผักนั่นแหละ “ เคยเจอกรณีเขากังวลว่าจะคิดเงินไม่ถูก เราก็บอกเขาว่า “ ใส่แค่เส้นกับผักนั่นแหละ คิดเงินตามปกติก็ได้นะ” ส่วนใหญ่ร้านก๋วยเตี๋ยวจะสื่อสารไม่ค่อยยากเท่าไรนัก

ในส่วนของร้านอาหารอื่นๆ เช่น ร้านราดหน้า ร้านส้มตำ ฯลฯ ให้ทำในแนวทางเดียวกัน คือ ให้เราลอง โยนหินถามทาง ดูก่อนว่า เขาพอจะสะดวกทำให้เราหรือไม่ เขาสบายใจที่จะทำให้เราหรือไม่ เขายินดีที่จะทำให้เราหรือไม่ โดยให้เราแสดงท่าทีที่นอบน้อมให้มากที่สุด เพราะเราเองเป็นคนที่ทำให้เขาลำบาก ผิดไปจากกระบวนการที่เขาเคยทำ เป็นการรบกวนเขา ดังนั้นความนอบน้อมจึงเป็นคุณสมบัติที่ชาวมังสวิรัติควรจะมีหรือพัฒนาให้มากขึ้น หากจะต้องการลดเนื้อกินผักในสังคม สิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย

จะสังเกตได้ว่า เราจะไม่ไปใช้การ “สั่ง” บังคับ หรือการกดดันใดๆ กับพ่อค้าแม่ค้า เราเพียงแค่ไปขอความเห็นใจ ให้เขาช่วยให้เราได้กินมังสวิรัติหรือลดเนื้อกินผักให้ได้มากที่สุดตามความเหมาะสม เขาจะยินดีทำหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ถ้าเขายินดีเราก็ได้กิน  ถ้าเขาไม่ยินดี เราก็ไปกินร้านอื่น หรือถ้าไม่มีทางเลือกอื่นเลย ก็ให้เขาทำเท่าที่เขาสะดวก เราก็กินแบบ “มังเขี่ย” ของเราไป หรือถ้ามีวิธีที่ดีกว่านั้นก็ทำไป

ชาวมังสวิรัติควรจะทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีความรู้สึกที่ดีกับผู้ที่กินมังสวิรัติ หากเราไปสั่งทุกอย่างตามใจเรา เช่น น้ำมันหอยไม่ใส่ น้ำปลาไปไม่ใส่ ใส่เกลือแทน กระเทียมไม่ใส่ ปรุงรสอ่อนๆ ไอ้นั้น ไอ้นี่ เยอะไปหมดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน โดยที่พ่อค้าแม่ค้าไม่ยินดีทำ เราอาจจะได้กินมังสวิรัติหนึ่งมื้อ รักษาความสมบูรณ์ของศีลไปได้อีกวัน แต่อาจจะสร้างคนที่เกลียดคนกินมังสวิรัติเพิ่มขึ้นมาแทนก็ได้

นั่นหมายความว่าแทนที่จะสร้างคนที่กินมังสวิรัติมาช่วยลดเนื้อกินผัก กลับสร้างศัตรูหรือผู้เสื่อมศรัทธาในนิสัยเรื่องมาก ยุ่งยากของคนกินมังสวิรัติ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะขายอาหารแลกเงิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปสั่งให้เขาทำทุกอย่างตามใจเราได้เสมอไป ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมองว่าการกินมังสวิรัติเป็นเรื่องที่ดีเสมอไป ไม่จำเป็นด้วยว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องเห็นดีเห็นด้วยตามเรา การกินมังสวิรัติไม่ได้หมายความว่าเราจะดูเป็นคนดี น่าเคารพ น่าช่วยเหลือขนาดนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับความร่วมมือทุกอย่าง การปฏิบัติตัวให้ดี เพื่อให้เขามีทัศนคติที่ดีต่อคนที่กินมังสวิรัติทั้งหมด เป็นเรื่องที่สมควรทำ

เราต้องทำความเข้าใจอย่างหนึ่งว่า การกินมังสวิรัติคนเดียวได้อย่างสมบูรณ์นั้น แม้จะสมบูรณ์แบบเพียงใดก็อาจจะไม่ได้มีผลต่อการเบียดเบียนองค์รวมเลย แต่การที่จะสร้างคนที่หัดกินมังสวิรัติเพิ่มขึ้นมาทีละคนต่างหากที่จะช่วยลดการเบียดเบียนเหล่านั้นได้ หากเราเป็นผู้นอบน้อม ถือศีลกินมังฯ อย่างเคร่งครัด และพร้อมจะปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง โดยไม่ให้เสียประโยชน์ตนเอง (คือ ยังสามารถกินลดเนื้อสัตว์กินผักได้ทุกสถานการณ์) และ ยังสามารถรักษาใจคนอื่นไว้ได้ด้วย (คือ คนรอบข้าง ผู้ร่วมโต๊ะ พ่อครัวแม่ครัว ฯลฯ ไม่ลำบากใจที่ต้องกินร่วมกับเรา หรือทำอาหารให้เรา) วันหนึ่งก็จะมีคนศรัทธาตามที่เราปฏิบัติ จนนำมาสู่ความสนใจในการกินมังสวิรัติของเขาเหล่านั้นด้วย