Tag: สเต็ก
ลดเนื้อกินผัก ลดชนิดอาหาร : ไม่ติดมากก็เลิกไปได้เลย
ลดเนื้อกินผัก ลดชนิดอาหาร : ไม่ติดมากก็เลิกไปได้เลย
ผู้ที่ลดเนื้อสัตว์หันมากินผัก เมื่อปฏิบัติตามกระบวนการลด ละ เลิก ด้วยการพิจารณาทุกข์ โทษ ภัย ผลเสียต่างๆ จากการกินเนื้อสัตว์จนสามารถลดการกินเนื้อสัตว์ได้ สามารถกินผักได้เพิ่มขึ้น สามารถละเนื้อสัตว์ได้เป็นช่วงเวลาที่นานมากขึ้น และเมื่อได้ลดละเนื้อสัตว์กินแต่ผักมาสักระยะหนึ่งจนเกิดความรู้สึกว่า แม้จะไม่ได้กินเนื้อสัตว์ ก็ไม่มีความทุกข์ใจ กระวนกระวายใจ หรือความอยากกินใดๆ ก็ให้ลองตัดเนื้อสัตว์ชนิดนั้นออกไปได้
ยกตัวอย่างเช่น เราลด ละ เลิกเนื้อวัว เราไม่กินเนื้อวัวแล้ว ไม่ได้กินก็ไม่กระวนกระวาย ไม่ทุกข์ใจอะไร เราก็ลองเลิกเนื้อวัวแบบตัดขาดจากชีวิตได้เลย ถ้าเลิกแล้วยังรู้สึกสบายดีก็ให้เลิกไปได้เลย
แต่ถ้าเลิกแล้วยังมีความรู้สึกคิดถึง ยังเห็นเมนูเนื้อวัวแล้วน้ำลายไหล อยากกินเนื้อวัวชิ้นนั้นๆ ก็ให้พิจารณาผลเสียไปเรื่อยๆ ความอยากกินนั้นจะลดลงเอง จนมั่นใจได้ว่าแม้จะมีเนื้อสเต็กราคาแพงมาอยู่ตรงหน้า ให้กินฟรีๆเลยนะ ฉันก็จะสั่งอย่างอื่นมากินโดยไม่ได้สนใจสเต็กเนื้อชิ้นนั้นเลย ปล่อยมันวางอยู่ข้างหน้าอย่างนั้นแหละ แต่ไม่กิน ไม่รู้สึกรำคาญ ไม่กระวนกระวาย ไม่รัก ไม่ชัง ไม่รู้สึกดึงดูด ไม่รู้สึกว่าผลักไส รู้สึกแค่ว่ามันก็เป็นของมันอย่างนั้น แล้วเราก็กินผักต่อไปได้ปกติ เลิกกินก็ไม่คิดฟุ้งซ่าน เพราะมั่นใจว่าที่ทำนั้นดีแล้ว
เมื่อเราเลิกเนื้อวัวได้ เราก็มาเลิกเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา กุ้ง ปู ปลาหมึก หอย ไข่ นมสัตว์ น้ำผึ้ง ฯลฯ โดยใช้กระบวนการลด ละ เลิก ตามลำดับเหมือนเดิม แต่ถ้าจิตใจเข้มแข็งก็อาจจะสามารถเลิกพร้อมกันได้หลายชนิดก็ได้ ทั้งนี้ผู้ลดเนื้อกินผัก ควรประมาณกำลังของตัวเองให้เหมาะสม ไม่ให้หย่อนจนไม่เจริญ ไม่ให้ตึงจนทรมาน
ลดชนิดอาหาร…
เมื่อเลิกเนื้อสัตว์ที่มีลักษณะเป็นชิ้นๆได้แล้ว เราก็จะมาลดอาหารที่ไม่มีรูปลักษณะของเนื้อสัตว์นั้นๆ เช่น น้ำซุป น้ำมันหอยในผัดผัก น้ำปลาในน้ำแกง เป็นต้น
ยกตัวอย่างเช่น แต่ก่อนเรากินก๋วยเตี๋ยว ใส่เส้นกับผัก แต่ยังมีน้ำซุปที่มีกระดูกสัตว์เป็นส่วนประกอบอยู่ เราก็พิจารณาว่าการมีกระดูกสัตว์ก็ยังมีส่วนเบียดเบียนเขาอยู่ ยังเกิดทุกข์โทษภัยอยู่ เราก็จะลด ลงมาเป็นการสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง คือให้เขาลวกเส้นกับผักให้เท่านั้น ถ้าทำได้โดยไม่ยากไม่ลำบากจิตใจมากไปนัก ก็ลองเลิกกินแบบเดิมๆ หันมากินก๋วยเตี๋ยวแห้งใส่แต่เส้นกับผักดู ส่วนเขาจะมีสิ่งอื่นในประกอบให้อย่างไรก็ต้องพิจารณาไปเป็นครั้งๆเป็นรายๆไป ตามแต่สูตรของแต่ละร้าน เช่น ถ้าเขามีถั่วเราก็ขอรับ แต่ถ้าเขาเสนอกากหมูเราไม่รับ เป็นต้น
เมื่อเราพัฒนาการลด ละ เลิก ในรายละเอียดของชนิดอาหารนั้นๆได้แล้ว ก็ให้พัฒนาต่อเป็นการลด ละ เลิกชนิดอาหารนั้นๆต่อกันเลย
ยกตัวอย่างเช่น แต่ก่อนเราชอบกินผักทอด ขนมทอด เราก็ลดปริมาณการกินลงมา จนสามารถละได้เป็นช่วงเวลานาน ก็ให้ทดลองเลิกของทอดนั้นๆไปเลย เช่นเลิกกินผักทอด เห็ดทอด เมนูชุบแป้งทอดทั้งหลาย โดยการพิจารณาโทษของการกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป อาจจะทำให้อ้วน ทำให้มีโรคมาก ทำให้สุขภาพไม่แข็งแรงเต็มที่ จนกระทั่งเกิดความรู้สึกว่า ไม่กินเมนูทอดก็ไม่เป็นไร ไม่อยากกินเมนูทอดแล้วเพราะไม่ดีต่อสุขภาพ แม้จะมีมาวางอยู่ตรงหน้าก็ไม่กินเป็นอันดับแรก ไม่กระวนกระวายใจหากไม่ได้กิน ก็ให้เลิกกินของทอดไปได้เลย
แล้วค่อยลดชนิดอาหารอื่นๆ ที่มีรสจัดมาก มีการปรุงแต่งมาก มีราคาแพง หากินยาก มีขั้นตอนการทำยาก ฯลฯไปตามกำลังที่พอจะทำไหว
สุดท้ายแล้วเราก็จะลดเนื้อกินผักกันจนสามารถกินข้าวกับผักสดหรือผักต้มได้ น้ำพริกไม่ต้องมีก็ได้ ถ้าขาดธาตุอาหารใดก็ต้มกินเพิ่มได้ เช่น โปรตีนก็ใช้ถั่วต้ม ส่วนคาร์โบไฮเดรตเราได้จากข้าวอยู่แล้ว วิตามินได้จากผักนานาชนิดและข้าวกล้อง ที่เราเลือกกินให้เหมาะกับความสมดุลแข็งแรงของร่างกาย ส่วนไขมันถ้าขาดเราก็ใส่ในกระบวนการผัดก็ได้ จะกินพวกธัญพืชที่มีน้ำมันเช่น เมล็ดทานตะวัน แทนก็ได้ หรือจะกินเข้าไปตรงๆเลยก็ได้ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่าย มีอยู่ทั่วไป ราคาไม่แพง และไม่มีโทษ คือปลอดสารเคมี ไม่ทำให้ป่วย ไม่ทำให้เสียสุขภาพ
ทั้งนี้เพื่อดำเนินไปสู่เป้าหมายคือการไม่เบียดเบียนผู้อื่นและไม่เบียดเบียนชีวิตตนเองด้วยอาหารที่ทำลายสุขภาพ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อความผาสุกในชีวิตอย่างยั่งยืน
แบ่งปันประสบการณ์ ลดเนื้อกินผัก ร้านสเต็ก
แบ่งปันประสบการณ์ ลดเนื้อกินผัก ร้านสเต็ก
เมื่อวานก่อนก็เพิ่งจะโพสเมนูอาหารเกี่ยวกับการหากินผักลดเนื้อกันที่ร้านสเต็ก แล้วเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ครอบครัวก็พากันไปกินข้าวกลางวัน กันที่ร้านสเต็กราคาประหยัด ซึ่งในปัจจุบันมีร้านสเต็กแบบนี้อยู่มากมายและราคาก็ไม่แพง ดังนั้นการที่ครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก จะชวนกันไปกินสเต็กก็เลยกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ
แน่นอนว่าชาวมังสวิรัติส่วนใหญ่ก็มักจะเบือนหน้าหนีร้านสเต็กซึ่งมีทีเด็ดเป็นเนื้อสัตว์ แต่ด้วยความที่ญาติมิตรสหายของเรา เขาเหล่านั้นยังไม่สามารถเข้าใจและหันมากินมังสวิรัติได้อย่างเรา เราจึงต้องอนุโลมไปกินกับเขาบ้าง เพื่อประโยชน์อื่นๆที่มากกว่า เช่นในด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว ในด้านสังคม หน้าที่การงาน ฯลฯ
การอนุโลมหรือไปกินกับเขานี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปกินเนื้อกับเขา แต่หมายถึงว่าเราจะไปกินร่วมมื้อนี้กับเขาเท่านั้น เราร่วมโต๊ะ แต่เราไม่ได้ร่วมกินกับเขา ชาวมังสวิรัติจึงต้องศึกษาและหาเมนูผักกันไว้ เพื่อเอาตัวรอดจากดงเนื้อสัตว์นี้ไปให้ได้ โดยที่ยังมีความสุขกับการกินผักท่ามกลาง กลิ่นเนื้อสัตว์ที่ตัวเองเคยยึด เคยหลงติด หลงเสพ หรือแม้แต่เกลียดชังกลิ่นเนื้อสัตว์ก็ตาม
การศึกษาเมนูอาหารไว้บ้าง จะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างให้กับตัวเองว่า ไม่อยากเรื่องมาก,ไม่รู้จะกินอะไร,อาหารมังฯหากินยาก ฯลฯ การสั่งอาหารที่ไม่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ สั่งแต่อาหารที่มีผัก อย่างมั่นใจ แสดงให้เพื่อนร่วมโต๊ะได้เห็นว่าชาวมังสวิรัติอย่างเราสามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ จะทำให้คนรอบข้างไม่รู้สึกลำบากใจ และยินดีที่จะกินร่วมกับเรา เพราะเราเอาตัวรอดเองได้ ไม่เป็นภาระ ไม่จำเป็นต้องเอาใจเรา
และการกระทำเหล่านี้จะยิ่งยืนยันคุณค่าของการกินมังสวิรัติให้เขาเห็นว่าเป็นสิ่งดี สิ่งเยี่ยม ไม่ใช่ว่ารวมญาติทีหนึ่งก็กินเนื้อทีหนึ่ง นัดเลี้ยงเพื่อนทีหนึ่งก็ไปกินเนื้อกับเขาอีกทีหนึ่ง …อันนี้มันก็ทำได้ แต่มันจะไม่ขลัง เวลาไปบอกใครว่ามังสวิรัติดี มันจะพูดไม่เต็มปาก ถึงจะพูดอย่างมั่นใจเขาก็ไม่เชื่อ เพราะเราไม่ได้กระทำอย่างที่พูดได้จริง
เกริ่นกันมานาน มาเข้าเรื่องกันเลย เมื่อมาถึงร้านเราก็ต้องศึกษาเมนูอาหาร พยายามมองหาเมนู ที่พอจะกินได้และทำให้อิ่มท้อง ในราคาที่เหมาะสม และคุณค่าที่คู่ควร …
เมนูชามแรกคือ ซุปเห็ด ชามนี้ไม่ได้สั่งมาเอง แต่พี่เป็นคนสั่ง เราเลยได้กินด้วย ตอนแรกก็มองข้ามซุปเห็ดไปเลย จริงๆพวกซุปแป้งพวกนี้แหละ ทำให้อิ่มท้องได้ดีนัก เพราะมีทั้งแป้งและไขมัน บางทีคิดว่าจะเอามากินรองท้อง กินไปกินมาก็อิ่มได้เหมือนกันนะ
ชามที่สองคือ มันบด เป็นอาหารกินเล่น กินง่ายๆ ตัวน้ำเกรวี่ก็คงจะไม่เรียกว่ามังสวิรัติ แต่ถ้าเราลองคิดดูว่า เราลดเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ เหลือแค่มันบดได้ มันจะสามารถลดการเบียดเบียนได้ขนาดไหน แล้วถ้าทุกคนกินมันบดแทนสเต็กได้ จะรักษาชีวิตสัตว์ได้ขนาดไหน นี่แค่ขั้นลดนะ ใครยังไม่เก่งก็ลดให้ได้ก่อน เก่งๆ ค่อยละ ค่อยเลิก กันไปตามลำดับ
จานต่อมาเป็น ขนมปังกระเทียมหน้าชีส คือร้านนี้เขามีแต่เมนูนี้ ขนมปังกระเทียมปกติที่ไม่มีชีส ไม่ได้เขียนไว้ เลยลองสั่งมาก่อน เมนูนี้ก็พาอิ่มได้เหมือนกัน ขนมปังนี่ก็ให้พลังงานได้ไว แถมยังมีชีสอีก ใครยังกินชีสอยู่ก็กินไป ใครไม่กินก็บอกเขาว่า…ขอไม่เอาได้ไหม? ถามเขาก่อน ถ้าเขายินดีทำให้เราก็รับ ถ้าเขาไม่ยินดีเราก็ไปสั่งอย่างอื่น
มาถึงชามที่ 4 เมนูสิ้นคิดของชาวมังสวิรัติเวลาไปร้านอาหารฝรั่งแล้วไม่รู้จะสั่งอะไร ถ้ามันหมดหนทาง หมดปัญญาแล้วจริงๆ เราจะเลือกสั่งแต่ มันฝรั่งทอด หรือ เฟรนช์ฟรายด์ มากินประชดชีวิตก็ได้ ให้มันรู้ไปว่าแม้จะมีแต่แป้งและไขมัน ฉันก็จะขอละเว้นเนื้อสัตว์ … แต่โลกมันก็คงไม่โหดร้ายขนาดนั้น ลองถามร้านเขาดูก็ได้ เขาอาจจะเสนอเมนูอะไรดีๆให้เราบ้างละนะ
ชามที่ 5 คือ สลัดผัก แม้จะกินในร้านอาหาร แต่สลัดชามนี้ราคาไม่แพงเลย ดีไม่ดีจะถูกกว่าซื้อสลัดตามตลาดนัดเสียอีก สลัดที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์เลย ก็มักจะมีราคาถูกที่สุด นอกจะเราจะได้ละเว้นเนื้อสัตว์แล้ว เรายังละเว้นการจ่ายเงินที่มากเกินความจำเป็น ให้กับสิ่งที่เราไม่อยากกินอีกด้วย นั่นทำให้เราเกิดความประหยัดมากขึ้น
การกินแต่ผักก็มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่ต้องไปสน ไปกังวล ไปลำบากใจว่า เนื้อสัตว์ที่ประกอบมาในจานสลัดนั้น ไม่อร่อย ไม่สด ไม่กรอบ ไม่ดี อะไรก็ว่าไป พอเรากินแต่ผัก ชีวิตจะมีเรื่องให้คิดน้อยลงทันที
เมนูสุดท้าย คือ สปาเก็ตตี้ซอสเห็ด เป็นเมนูที่ดูจริงจังแม้ว่าพลังงานที่ได้นั้นอาจจะดูน้อยกว่า มันฝรั่งทอดซึ่งเป็นของกินเล่น สปาเก็ตตี้ก็จะมีแป้งเป็นหลัก มีไขมัน และโปรตีนจากเห็ดอีกนิดหน่อย แต่เราอย่าไปคิดมากเวลากินอาหารร่วมกับญาติมิตรสหาย แค่ไม่กินขนมปังเปล่าๆ หรือข้าวเปล่าก็ดีแล้ว เรื่องสารอาหารขอให้ลืมๆไปก่อน เอาไว้ไปกินเติมเองหลังมื้อนั้นๆ หรือไปทดแทนในมื้ออื่น ร่างกายขาดสารอาหารที่เราคิดว่าจำเป็นสักวันสองวันไม่เป็นอะไรหรอกนะ
…หมดแล้ว เมนูเท่าที่คิดได้ … ชาวมังสวิรัติ สั่งกินแค่สลัดผักกับสปาเก็ตตี้สักจานก็น่าจะอิ่มกันในราคาที่พอเหมาะแล้ว ส่วนของกินเล่นอื่นๆจะสั่งมาเติมกันไปบ้างก็ได้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะอยากกินอะไรแค่นี้เราก็สามารถลดเนื้อกินผักในการกินอาหารมื้อหนึ่งที่ร้านสเต็กกันได้แล้ว
สลัดผักร้านสเต็ก
สลัดผักร้านสเต็ก : เดี๋ยวนี้ร้านสเต็กราคาย่อมเยามีอยู่มากมาย เพียงแค่เงินไม่ถึงร้อยก็กินเนื้อชิ้นโตได้แล้ว ดังนั้นการชวนกันไปกินสเต็กในหมู่เพื่อนก็เป็นเรื่องธรรมดา
ทีนี้ชาวมังสวิรัติก็ไปกับเขาด้วย แต่เราไม่กินสเต็กเนื้อ แล้วทางเลือกของเราคืออะไร
แน่นอนว่าร้านสเต็กมักจะมีสลัดๆให้มาคู่อยู่แล้ว ซึ่งคุณภาพก็ตามราคา แต่สำหรับเราแล้ว ขอแค่ละเว้นเนื้อสัตว์มากินผักได้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
ดังนั้นก็มองหาเมนูสลัด ถ้ามีเนื้อสัตว์ก็บอกเขาว่าไม่ใส่ หรือจะสั่งขนมปังกระเทียม มันฝรั่งทอดมากินคู่กันก็ได้
ทีนี้ชาวมังสวิรัติก็ยังใช้ชีวิตไปกับผู้อื่นได้ด้วยความปกติสุข
ึความคิดเห็นล่าสุด