ข้าวราดผัดผัก
ข้าวราดผัดผัก : จานนี้แวะกินระหว่างเดินทาง
ผัดผักก็มักจะมีแต่ผัก แต่บางครั้งจะมีเนื้อสัตว์ผ
ถ้ามีศิลปะในการพูดก็จะสามา
แซนวิชเห็ดทอด
แซนวิชเห็ดทอด : ลองเอาเห็ดนางฟ้ามาฉีก ให้เล็กๆ แล้วเอาไปชุบแป้งทอด แบบทอดเป็นกลุ่มก้อน เพื่อให้สะดวกในการใส่เป็นไ
ใช้ผัดกาดแก้ว เป็นผักหลัก ลองวางดูแล้วชิ้นแซนวิชอ้วน
แต่ก็กินอร่อยดีนะ ได้ความกรอบจากเห็ดทอด ถ้าใส่ผักเยอะๆ กดให้แบนๆ ก็จะกินได้ง่าย เพิ่มมะเขือเทศ และผักอื่นๆเข้าไป
ชิ้นเดียวนี่อาจจะอิ่มได้เล
ธัญพืช อัลมอนด์ ถั่วต่างๆ
ชาวมังสวิรัติ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการหาโปรตีนมาเติมให้กับร่างกาย ซึ่งปัญหานี้ก็ทำให้ต้องกลับไปกินเนื้อสัตว์อยู่บ่อยๆ แต่ถ้าเราเรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับแหล่งโปรตีนทดแทนได้ก็จะสามารถกินมังสวิรัติได้อย่างยั่งยืนและแข็งแรง
อัลมอนด์ : ธัญพืช ที่เพิ่มธาตุอาหารให้กับชาว
อัลมอนด์ แม้จะมีคุณค่าแต่ก็มีราคาแพ
เมล็ดฟักทอง : ก็หากินง่ายเหมือนกัน อร่อยได้คุณค่า
สปาเก็ตตี้ไวท์ซอสแชมปิญองหอมมะเขือเทศ
สปาเก็ตตี้ไวท์ซอสเห็ดแชมปิ
ในจานนี้มีมะเขือเทศและเห็ด
ทำง่ายๆ เครื่องปรุงหลักๆไม่มีอะไรม
มะกะโรนีผัดไวท์ซอสเห็ดออรินจิ : อีกเมนูที่ตั้งต้นจากไวท์ซอส แต่เปลี่ยนจากตักราด เป็นเอาเส้นมะกะโรนีลงไปผัดแทน ใช้เห็ดออรินจิเป็นตัวเสริม ผักอื่นๆไม่ได้ใส่ลงไป ปรุงรสแบบเดิมๆ โรยออริกาโนลงไปตอนผัดด้วยนิดหน่อย
ข้าวมันไก่ทอดเจ
ข้าวมันไก่ทอดเจ : กินที่ร้านมังสวิรัติ เขาจะใช้ชื่อทับศัพท์เก่าไป
รสชาติก็เหมือนๆกันกับข้าวม
คนที่ทำอาหารเป็นก็สามารถที
เห็นเนื้อเราพัก… เห็นผักสู้ตาย!!
เห็นเนื้อเราพัก… เห็นผักสู้ตาย!!
ปล.อ่านคอมเม้นเพื่อนๆในเพจ
ลดการเบียดเบียน ของดัดแปลง แปรรูป สังเคราะห์กลิ่นรส
ลดการเบียดเบียน ของดัดแปลง แปรรูป สังเคราะห์กลิ่นรส
เมื่อชาวมังสวิรัติ สามารถลด ละ เลิก การกินเนื้อสัตว์ที่เป็นรูปเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ เช่น เนื้อสเต็ก เนื้อสัตว์ปิ้งย่าง หรือเป็นชิ้นของเนื้อสัตว์ที่ประกอบในเมนูอาหารต่างๆได้แล้ว เราก็จะเขยิบมาในขั้นต่อไปคือการ ลด ละ เลิก เนื้อสัตว์ที่ไม่อยู่ในรูปลักษณะเดิม แต่ถูกแปรรูป เปลี่ยนรูปไป จนเหลือแค่ กลิ่น รส ความทรงจำแค่ สิ่งนี้คือผลผลิตของเนื้อสัตว์
การลด ละ เลิก ชนิดของการเบียดเบียนเป็นลำดับชั้นจากง่ายไปสู่ยาก และละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ผู้กินมังสวิรัติไม่เครียดจนเกินไป เพราะแต่ละคนมีทุนมาไม่เท่ากัน มีกิเลสไม่เท่ากัน ดังนั้นเราควรจะประมาณตัวเองให้พอเหมาะกับการลด ละ เลิก ไม่ให้ตึงเครียดจนเกินไป และไม่หย่อนจนไม่เจริญ
ของดัดแปลง แปรรูปเช่น ลูกชิ้น ขนมที่ปรุงแต่งรส กลิ่น แคบหมู หนังปลากรอบ กะปิ ปลาร้า น้ำปลา น้ำมันหอย ผงปรุงรสที่มีส่วนประกอบของปลาและกุ้ง ฯลฯ อาหารจำพวกนี้ รูปของเนื้อสัตว์ที่ชัดเจนจะถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว กลายเป็นรูปอื่นที่เราเห็นแล้วไม่ชวนให้นึกถึงการเบียดเบียน
เช่น ขนมที่ปรุงแต่งรส อาจจะเป็นรสของปลาหมึก อาจจะมีส่วนผสมของปลาหมึกด้วย แต่เวลาที่เรากินเราจะไม่รู้สึกมากเพราะ รูปของอาหารอาจจะเป็นมันฝรั่งทอดมีเฉพาะรสและกลิ่นเท่านั้นที่เป็นปลาหมึก จึงไม่ได้ชัดเจนเท่าการกินเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ
แคบหมู เป็นของกินเล่นที่กินกับอาหารไทยหลายๆอย่าง เช่นส้มตำ แคบหมูไม่ได้ถูกมองเป็นเนื้อสัตว์โดยตรง หรือถูกใช้เป็นเมนูอาหารใดโดยตรง แต่ถูกใช้ในรูปแบบของกินเล่น ของที่มีประกอบร่วมไปในเมนูอาหารอื่น ดังนั้นอาจจะทำให้ถูกมองข้ามไปได้ง่าย
กะปิ เป็นส่วนประกอบหลัก ของน้ำพริกหลายชนิด พริกแกงหลายชนิดจะมีกะปิผสมอยู่ ถ้าเราไปซื้อกะปิมันก็ไม่เหลือรูปของเนื้อสัตว์อยู่แล้ว และกะปิยังอยู่ในอาหารประจำวันของเราในหลายๆเมนูอีกด้วย แท้จริงแล้วส่วนประกอบหลักของมันทำมาจากกุ้งตัวเล็ก หลายชีวิตรวมกัน
น้ำปลา เกิดจากการหมักปลา น้ำปลาที่เห็นในครัวก็ไม่เหลือรูปของปลาแล้ว มีแต่น้ำใสๆ สีเข้มๆ ถ้าให้บอกว่าทำจากปลาอะไรก็คงนึกหน้ามันไม่ออกถ้าเขาไม่บอกเรามา
ผงปรุงรสที่มีเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบ เช่น ปลาป่น เนื้อป่น กระดูกสัตว์ป่น ฯลฯ วัตถุดิบพวกนี้มักจะถูกมองข้ามไป แต่ถ้าหากเราใช้เวลาค่อยๆตรวจสอบดู เวลาซื้อ ลองดูส่วนผสมจะพบว่ามีส่วนของเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบร่วม
วัตถุดิบเหล่านี้ แม้จะกินเข้าไปก็แทบจะไม่รู้สึกว่ากินเนื้อสัตว์ เพราะถูกลดรูปให้เหลือแต่กลิ่น รส เท่านั้น การจะ ลด ละ เลิก วัตถุดิบเหล่านี้ถือว่าละเอียดและยากกว่าการลดเนื้อเป็นชิ้นๆ ชาวมังสวิรัติที่หัดกินใหม่ๆ ควรจะเลิกเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆให้ได้ก่อน แล้วค่อยเขยิบฐานขึ้นมา พัฒนาขึ้นมา ลด ละ เลิก ในขั้นละเอียดกว่า
เราจะเน้นการกินมังสวิรัติที่ยั่งยืน โดยลดความอยากในการกินเนื้อสัตว์และลดการเบียดเบียนชีวิตเป็นหลัก โดยมีแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอน โดยไม่ให้ทรมานตนเองมากจนเกินไป หรือหย่อนยานจนไม่เจริญ ดังนั้นการที่คิดว่าจะต้องเลิกทุกอย่างในทันทีที่คิดจะกินมังสวิรัตินั้น เรามองว่าไม่ใช่วิธีปฏิบัติที่นำไปสู่ความเจริญ แต่จะกลายเป็นความกดดัน อึดอัด ลำบากกาย ทรมานตัวเอง จนสุดท้ายตบะแตก กลับไปกินเนื้อนั่นแหละแม้จะอดทน กดข่มได้ทั้งชาติ ก็ไม่มีความสุข ไม่เบิกบาน ไม่ใช่ผลที่เราหมายไว้
การปฏิบัติอย่างกดข่มนั้นมีปลายทางแค่ทางตันเท่านั้นสุดท้ายก็ต้องกลับมากินเมื่อทนไม่ไหว เราจึงเน้นการพิจารณาประโยชน์ในการเลิกกินเนื้อสัตว์ เพิ่มทางเลือก สิ่งทดแทน ให้ความรู้ เพื่อนำไปสู่การลด ละ เลิก เนื้อสัตว์โดยมีความสุข ความสบายใจ แม้ว่าจะไม่ได้กินเนื้อสัตว์หรือจะเห็นคนอื่นกินเนื้อสัตว์ก็ตาม
ลองจินตนาการดูสิ…ว่าถ้าคนทั้งโลกเลิกกินเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆเหล่านั้นแล้วจะดีขนาดไหน ไม่ต้องลดถึงขนาดขั้นละเอียดแบบนี้ทุกคนหรอก แค่เลิกกินเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ ก็จะค่อยๆ ลดการเบียดเบียนที่จะเกิดขึ้นแล้ว เพราะวัตถุดิบที่ถูกแปรรูปเหล่านี้ เป็นผลพวงจากการที่เรายังกินเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆนั่นแหละ
เราไม่ได้กินเนื้อสัตว์เพราะเราอยากกินมัน สังเกตได้ว่าแม้บางคนจะรับรู้ความโหดร้ายของกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ แต่เขาก็ยังอยากกินเนื้อสัตว์อยู่ ความเมตตากับความอยากมันคนละตัว แม้จะเมตตามากแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาไปตัด ไปลบ ไปทำลายความอยากได้โดยตรง เขากินเนื้อสัตว์เพราะมันมีรสอร่อยเกิดในวิญญาณของเขา ต้นเหตุจริงๆ มาจากกิเลสของเขา ถ้าไม่ทำลายความอยาก ไม่ดับที่เหตุ ไม่ทำลายกิเลสนั้น ก็ไม่มีทางที่จะเลิกกินเนื้อสัตว์ได้อย่างยั่งยืนแน่นอน
ึความคิดเห็นล่าสุด