Tag: สปาเก็ตตี้
สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศเต้าหู้ข้าวโพดอ่อน
สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศเต้าหู้ข้าวโพดอ่อน : เมนูนี้จริงๆทำง่ายมาก เหมาะกับมือใหม่ที่อยากหัดทำอาหารเอง
เส้นก็ลวกเอาพอนิ่มเท่าที่ชอบ เห็นว่านิ่มแล้วก็เลิกต้ม จะเอาไปแช่น้ำเย็นให้เส้นไม่สุกต่อก็แล้วแต่เทคนิค
ส่วนซอสนี่ก็ง่ายเหลือเกิน เอามะเขือเทศที่หั่นเล็กๆไว้ ลงไปผัด หรือจะเรียกว่าต้มก็ได้ เมนูนี้ใส่เต้าหู้กับข้าวโพดอ่อน ซึ่งเป็นของเหลือๆในตู้เย็น ใครอยากใส่อะไรก็ใส่ไปได้
มะเชือเทศนี้ใช้อยู่สองชนิดนะ พอดีเหลืออยู่ในตู้เย็น ชนิดแรกเป็นมะเขือเทศท้อ ลูกใหญ่หน่อย ให้พอมีเนื้อ หั่นให้เล็กๆ จะได้เละเป็นซอสง่ายๆ อีกชนิดเป็นลูกเล็กไม่รู้ชื่อพันธุ์ หั่นขวางกลางลูกครั้งเดียว เอาให้เป็นชิ้นเป็นคำเวลากิน
พอเนื้อมะเขือเทศเริ่มเละก็ลองปรุงกันดู จะใส่เกลือ น้ำตาล ใส่ซอสมะเขือเทศหรือซอสพริกเพิ่มก็ตามใจ แต่ส่วนใหญ่แค่นำมะเขือเทศหลายๆลูกมาผัดก็จะกลายเป็นซอสที่รสดีตามธรรมชาติอยู่แล้ว
รสชาติก็จะออก เปรี้ยวนำหวานตามเค็มตบท้ายเบาๆ ตามรสของมะเขือเทศ
ลองทำกันดูแล้วจะรู้ว่าการทำให้รสชาติไปคล้ายกับร้านอาหารหรือสปาเก็ตตี้กล่องแช่เย็นนั้นไม่ได้ยากเลย เอาเข้าจริงๆจะรสดี อร่อยกว่า เพราะเราสามารถปรุงได้ตามใจเราเอง
สปาเก็ตตี้ซอสพริกหวาน
สปาเก็ตตี้ซอสพริกหวาน : ส่วนตัวก็แอบชอบรสและกลิ่นของพริกหวาน ก็เลยเอามาทำเป็นผักประกอบซอสราดเส้นสปาเก็ตตี้
เราก็เปลี่ยนผักไปเรื่อยๆก็ได้ ผักมีเยอะแยะไม่มีเบื่อ จะประยุกต์ใส่เต้าหู้แข็งทอด หรือวัตถุดิบอื่นๆ ไปเพิ่มเติมตามที่ชอบ ก็เพิ่มรสสัมผัสได้บ้างเหมือนกัน
แบ่งปันประสบการณ์ ลดเนื้อกินผัก ร้านสเต็ก
แบ่งปันประสบการณ์ ลดเนื้อกินผัก ร้านสเต็ก
เมื่อวานก่อนก็เพิ่งจะโพสเมนูอาหารเกี่ยวกับการหากินผักลดเนื้อกันที่ร้านสเต็ก แล้วเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ครอบครัวก็พากันไปกินข้าวกลางวัน กันที่ร้านสเต็กราคาประหยัด ซึ่งในปัจจุบันมีร้านสเต็กแบบนี้อยู่มากมายและราคาก็ไม่แพง ดังนั้นการที่ครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก จะชวนกันไปกินสเต็กก็เลยกลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ
แน่นอนว่าชาวมังสวิรัติส่วนใหญ่ก็มักจะเบือนหน้าหนีร้านสเต็กซึ่งมีทีเด็ดเป็นเนื้อสัตว์ แต่ด้วยความที่ญาติมิตรสหายของเรา เขาเหล่านั้นยังไม่สามารถเข้าใจและหันมากินมังสวิรัติได้อย่างเรา เราจึงต้องอนุโลมไปกินกับเขาบ้าง เพื่อประโยชน์อื่นๆที่มากกว่า เช่นในด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว ในด้านสังคม หน้าที่การงาน ฯลฯ
การอนุโลมหรือไปกินกับเขานี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปกินเนื้อกับเขา แต่หมายถึงว่าเราจะไปกินร่วมมื้อนี้กับเขาเท่านั้น เราร่วมโต๊ะ แต่เราไม่ได้ร่วมกินกับเขา ชาวมังสวิรัติจึงต้องศึกษาและหาเมนูผักกันไว้ เพื่อเอาตัวรอดจากดงเนื้อสัตว์นี้ไปให้ได้ โดยที่ยังมีความสุขกับการกินผักท่ามกลาง กลิ่นเนื้อสัตว์ที่ตัวเองเคยยึด เคยหลงติด หลงเสพ หรือแม้แต่เกลียดชังกลิ่นเนื้อสัตว์ก็ตาม
การศึกษาเมนูอาหารไว้บ้าง จะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างให้กับตัวเองว่า ไม่อยากเรื่องมาก,ไม่รู้จะกินอะไร,อาหารมังฯหากินยาก ฯลฯ การสั่งอาหารที่ไม่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์ สั่งแต่อาหารที่มีผัก อย่างมั่นใจ แสดงให้เพื่อนร่วมโต๊ะได้เห็นว่าชาวมังสวิรัติอย่างเราสามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ จะทำให้คนรอบข้างไม่รู้สึกลำบากใจ และยินดีที่จะกินร่วมกับเรา เพราะเราเอาตัวรอดเองได้ ไม่เป็นภาระ ไม่จำเป็นต้องเอาใจเรา
และการกระทำเหล่านี้จะยิ่งยืนยันคุณค่าของการกินมังสวิรัติให้เขาเห็นว่าเป็นสิ่งดี สิ่งเยี่ยม ไม่ใช่ว่ารวมญาติทีหนึ่งก็กินเนื้อทีหนึ่ง นัดเลี้ยงเพื่อนทีหนึ่งก็ไปกินเนื้อกับเขาอีกทีหนึ่ง …อันนี้มันก็ทำได้ แต่มันจะไม่ขลัง เวลาไปบอกใครว่ามังสวิรัติดี มันจะพูดไม่เต็มปาก ถึงจะพูดอย่างมั่นใจเขาก็ไม่เชื่อ เพราะเราไม่ได้กระทำอย่างที่พูดได้จริง
เกริ่นกันมานาน มาเข้าเรื่องกันเลย เมื่อมาถึงร้านเราก็ต้องศึกษาเมนูอาหาร พยายามมองหาเมนู ที่พอจะกินได้และทำให้อิ่มท้อง ในราคาที่เหมาะสม และคุณค่าที่คู่ควร …
เมนูชามแรกคือ ซุปเห็ด ชามนี้ไม่ได้สั่งมาเอง แต่พี่เป็นคนสั่ง เราเลยได้กินด้วย ตอนแรกก็มองข้ามซุปเห็ดไปเลย จริงๆพวกซุปแป้งพวกนี้แหละ ทำให้อิ่มท้องได้ดีนัก เพราะมีทั้งแป้งและไขมัน บางทีคิดว่าจะเอามากินรองท้อง กินไปกินมาก็อิ่มได้เหมือนกันนะ
ชามที่สองคือ มันบด เป็นอาหารกินเล่น กินง่ายๆ ตัวน้ำเกรวี่ก็คงจะไม่เรียกว่ามังสวิรัติ แต่ถ้าเราลองคิดดูว่า เราลดเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ เหลือแค่มันบดได้ มันจะสามารถลดการเบียดเบียนได้ขนาดไหน แล้วถ้าทุกคนกินมันบดแทนสเต็กได้ จะรักษาชีวิตสัตว์ได้ขนาดไหน นี่แค่ขั้นลดนะ ใครยังไม่เก่งก็ลดให้ได้ก่อน เก่งๆ ค่อยละ ค่อยเลิก กันไปตามลำดับ
จานต่อมาเป็น ขนมปังกระเทียมหน้าชีส คือร้านนี้เขามีแต่เมนูนี้ ขนมปังกระเทียมปกติที่ไม่มีชีส ไม่ได้เขียนไว้ เลยลองสั่งมาก่อน เมนูนี้ก็พาอิ่มได้เหมือนกัน ขนมปังนี่ก็ให้พลังงานได้ไว แถมยังมีชีสอีก ใครยังกินชีสอยู่ก็กินไป ใครไม่กินก็บอกเขาว่า…ขอไม่เอาได้ไหม? ถามเขาก่อน ถ้าเขายินดีทำให้เราก็รับ ถ้าเขาไม่ยินดีเราก็ไปสั่งอย่างอื่น
มาถึงชามที่ 4 เมนูสิ้นคิดของชาวมังสวิรัติเวลาไปร้านอาหารฝรั่งแล้วไม่รู้จะสั่งอะไร ถ้ามันหมดหนทาง หมดปัญญาแล้วจริงๆ เราจะเลือกสั่งแต่ มันฝรั่งทอด หรือ เฟรนช์ฟรายด์ มากินประชดชีวิตก็ได้ ให้มันรู้ไปว่าแม้จะมีแต่แป้งและไขมัน ฉันก็จะขอละเว้นเนื้อสัตว์ … แต่โลกมันก็คงไม่โหดร้ายขนาดนั้น ลองถามร้านเขาดูก็ได้ เขาอาจจะเสนอเมนูอะไรดีๆให้เราบ้างละนะ
ชามที่ 5 คือ สลัดผัก แม้จะกินในร้านอาหาร แต่สลัดชามนี้ราคาไม่แพงเลย ดีไม่ดีจะถูกกว่าซื้อสลัดตามตลาดนัดเสียอีก สลัดที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์เลย ก็มักจะมีราคาถูกที่สุด นอกจะเราจะได้ละเว้นเนื้อสัตว์แล้ว เรายังละเว้นการจ่ายเงินที่มากเกินความจำเป็น ให้กับสิ่งที่เราไม่อยากกินอีกด้วย นั่นทำให้เราเกิดความประหยัดมากขึ้น
การกินแต่ผักก็มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่ต้องไปสน ไปกังวล ไปลำบากใจว่า เนื้อสัตว์ที่ประกอบมาในจานสลัดนั้น ไม่อร่อย ไม่สด ไม่กรอบ ไม่ดี อะไรก็ว่าไป พอเรากินแต่ผัก ชีวิตจะมีเรื่องให้คิดน้อยลงทันที
เมนูสุดท้าย คือ สปาเก็ตตี้ซอสเห็ด เป็นเมนูที่ดูจริงจังแม้ว่าพลังงานที่ได้นั้นอาจจะดูน้อยกว่า มันฝรั่งทอดซึ่งเป็นของกินเล่น สปาเก็ตตี้ก็จะมีแป้งเป็นหลัก มีไขมัน และโปรตีนจากเห็ดอีกนิดหน่อย แต่เราอย่าไปคิดมากเวลากินอาหารร่วมกับญาติมิตรสหาย แค่ไม่กินขนมปังเปล่าๆ หรือข้าวเปล่าก็ดีแล้ว เรื่องสารอาหารขอให้ลืมๆไปก่อน เอาไว้ไปกินเติมเองหลังมื้อนั้นๆ หรือไปทดแทนในมื้ออื่น ร่างกายขาดสารอาหารที่เราคิดว่าจำเป็นสักวันสองวันไม่เป็นอะไรหรอกนะ
…หมดแล้ว เมนูเท่าที่คิดได้ … ชาวมังสวิรัติ สั่งกินแค่สลัดผักกับสปาเก็ตตี้สักจานก็น่าจะอิ่มกันในราคาที่พอเหมาะแล้ว ส่วนของกินเล่นอื่นๆจะสั่งมาเติมกันไปบ้างก็ได้ ก็แล้วแต่ว่าใครจะอยากกินอะไรแค่นี้เราก็สามารถลดเนื้อกินผักในการกินอาหารมื้อหนึ่งที่ร้านสเต็กกันได้แล้ว
สปาเก็ตตี้ไวท์ซอสแชมปิญองหอมมะเขือเทศ
สปาเก็ตตี้ไวท์ซอสเห็ดแชมปิ
ในจานนี้มีมะเขือเทศและเห็ด
ทำง่ายๆ เครื่องปรุงหลักๆไม่มีอะไรม
มะกะโรนีผัดไวท์ซอสเห็ดออรินจิ : อีกเมนูที่ตั้งต้นจากไวท์ซอส แต่เปลี่ยนจากตักราด เป็นเอาเส้นมะกะโรนีลงไปผัดแทน ใช้เห็ดออรินจิเป็นตัวเสริม ผักอื่นๆไม่ได้ใส่ลงไป ปรุงรสแบบเดิมๆ โรยออริกาโนลงไปตอนผัดด้วยนิดหน่อย
ประสบการณ์ลดเนื้อกินผัก มังสวิรัตินอกบ้านในร้านอาหารครอบครัว
ประสบการณ์ลดเนื้อกินผัก มังสวิรัตินอกบ้านในร้านอาหารครอบครัว
มีโอกาสได้กินนอกบ้านเนื่องจากวันรวมญาติ การที่ชาวมังสวิรัติจะต้องมากินในสถานที่ต่างถิ่นก็มักจะมาจากเหตุปัจจัยด้านสังคมเป็นส่วนประกอบหนึ่ง เมื่อเราออกจากที่มั่นของเราแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเลิกการลดเนื้อกินผักตามวิถีของเราไปด้วย เรายังไม่จำเป็นต้องอนุโลมหรือกินเนื้อสัตว์ไปกับเขาถ้าเรายังพอมีทางเลือก
ทางเลือกหรือทางรอดนั้นเราจำเป็นต้องศึกษาและไขว่คว้ามาเอง การศึกษาในกรณีนี้คือ รู้ว่าจะต้องไปกินที่ไหน ร้านนั้นเขามีอะไรขายบ้าง มีเมนูอะไรที่เราพอจะกินได้บ้าง ส่วนการไขว่คว้านั้นจะใช้เมื่อเข้าสู่ภาวะหาอะไรกินยากลำบาก อาจจะต้องไปถามไปยังร้านว่าพอจะทำเมนูที่เราต้องการให้ได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ทางร้านก็สามารถที่จะทำได้ ถ้าเราไม่ไปร้านอาหารที่เฉพาะเจาะจง ที่เน้นไปทางขายเนื้อสัตว์มากไปนัก
ร้านนี้มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง ถ้าเอาแบบง่ายๆ ไม่คิดมาก ไม่ลำบากมาก สั่งง่าย กินง่าย อิ่มง่าย ก็สามารถสั่งผัดผักมากินกับข้าวได้ ถือว่าผ่านไปง่ายๆ สำหรับการกินมังสวิรัติในงานเลี้ยงรวมญาติครั้งนี้
แต่ถ้ามื้อนี้ผู้มีอุปการคุณยินดีที่จะเลี้ยงอาหารเรา แล้วบอกว่าให้เรากินเต็มที่ เราก็ควรจะ …..กินเท่าที่เราเคยกินนั่นแหละ คือสั่งผัดผักกับข้าวมากินก็ได้ … แต่ด้วยผู้เขียนคิดว่าถ้ากินแบบนั้นมันก็เหมือนกินที่บ้าน มากินในวันรวมญาติทั้งทีเดี๋ยวจะไม่มีอะไรเอามาแบ่งปันให้อ่านกันก็เลยจัดมาหลายเมนู…
เมนูแรก ปอเปี๊ยะทอดไส้ผัก อันนี้น้าสั่งมาไว้ให้ เพราะเห็นว่าเรากินมังสวิรัติ …เห็นไหมว่า เมื่อเราได้ประกาศบอกคนในครอบครัวไปแล้วว่าเรากินมังสวิรัติ จากที่เราเคยหาเมนูคนเดียวก็มีคนมาช่วยดูว่าเราจะกินอะไรได้บ้าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กินกับเราก็ตาม
ปอเปี๊ยะทอดไส้ผักนี่ก็ไม่มีอะไรมาก มีแป้งห่อ ผัก คือวุ้นเส้น เห็ด แครอท น่าจะประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน แต่คนกินมังสวิรัติก็สบายใจได้เพราะยังไงก็มีแต่ผัก เราอาจจะสั่งมาคู่กับผัดผักอีกสักเมนู ข้าวด้วยอีกจาน ก็ถือว่าพอดี พออิ่ม และดูไม่น้อยจนเหมือนหาอะไรกินลำบากมากเกินไป จนพลอยทำให้คนอื่นกังวลใจกับการกินของเรา
แต่พอดีว่าไม่ได้สั่งผัดผักมากินกับข้าว ก็เลยสั่ง ซีซาร์สลัด ปกติซีซาร์สลัดนี่เขาใส่เนื้อสัตว์จำพวกเบคอนรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่พอดีไปบอกกับทางร้านก่อนที่จะสั่งว่า “เราไม่กินเนื้อสัตว์ ช่วยแนะนำเมนูให้หน่อยได้ไหม” ทางร้านแนะนำสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ และเราก็ได้สั่งเมนูนี้มาเพิ่ม ประมาณว่าอยากกินผัก ก็กินกันง่ายๆ รสชาติมาตรฐาน กินผักไปก่อนที่ของหนักๆ จะมา ก็ดีนะย่อยง่าย
ผักโขมอบชีส เป็นเมนูที่สั่งต่อมา ใครที่ยังกินมังสวิรัติใหม่ๆ ก็สั่งมากินเล่นได้เลย ถือว่าเป็นเมนูเอาตัวรอดได้ดีประมาณหนึ่งเมื่ออยู่ในร้านอาหารฝรั่ง เพราะไปที่ไหนเขาก็มี ร้านพิซซ่าทั่วไปก็มี
ว่าแล้วก็มีถึงจานหลัก คือ สปาเก็ตตี้ ที่ไม่มีเนื้อสัตว์ จะเป็นซอสมะเขือเทศล้วนๆ ก็อร่อยดี อร่อยแบบมีคุณค่า ไม่ลำบากใจที่จะต้องสั่งเมนูที่มีเนื้อสัตว์ คิดว่าร้านอาหารฝรั่งส่วนใหญ่ก็น่าจะมีเมนูนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งราคาก็มักจะถูกที่สุดในบรรดาเมนูพาสต้าที่เรียงรายกันอยู่ ถูกและดีจริงๆ
ในระหว่างที่กินอยู่ ญาติๆ ก็จะทยอย จัดหรือแนะนำผักต่างๆมาให้ เป็นผักสลัดประดับจานบ้าง ผักต้มที่มากับเสต็กบ้าง เช่น มันบด บร็อคโคลี่ แครอท คงเพราะว่าเขาเห็นเรากินมังสวิรัติ เขาก็เห็นดีด้วยจึงมีเมตตากรุณาช่วยเหลือเรา อาจจะเพราะกลัวเราจะไม่อิ่มด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งเราก็ยินดีที่จะรับไว้ ยิ่งเป็นผักประดับจานที่เหลือๆ เราก็ยิ่งยินดี เพราะว่าจะได้ไม่เสียของ ยังไงเราก็กินอยู่แล้ว แม้จะไม่มีน้ำสลัดราด เราก็กินผักเปล่าๆ ด้วยความเคยชิน นั่นแหละนะ
เกือบจะอิ่มแล้ว แต่พอดีมีเมนูที่อยากลองกินดูอีกจานนั่นคือ ปอเปี๊ยะผักโขมชีส เป็นอีกเมนูหนึ่งที่สั่งมากินเล่นๆได้ดี ของทอดนี่รสชาติจะเปลี่ยนไปตามน้ำจิ้มเป็นส่วนใหญ่ ไส้ในเป็นองค์ประกอบย่อยๆ ที่ช่วยหนุนรสสัมผัสอีกทีหนึ่ง พระเอกจริงๆคือผิวกรอบๆของแป้งห่อนั่นเอง (กินทีไรมันก็เด่นสุดทุกที)
สรุปว่าหลังจากที่ทุกคนในครอบครัวรู้ว่าเรากินมังสวิรัติ ก็จะทำให้การดำเนินตามวิถีลดเนื้อกินผักของเรา เป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้น ร้านอาหารที่มีอาหารขายหลากหลายแบบนี้ เช่น ร้านข้าวต้ม ภัตตาคาร ร้านอาหารทั่วๆไป สามารถหาเมนูมังสวิรัติกินได้ง่าย เพราะมีเมนูผักให้เลือกหลากหลาย ปรับเปลี่ยนได้ตามที่เราต้องการ จะเพิ่มผักลดเนื้ออย่างไรก็สามารถบอกเขาได้เลย
สปาเก็ตตี้ผัดเต้าหู้
สปาเก็ตตี้ผัดเต้าหู้ : วันก่อนไปเห็นเมนูสปาเกตตี้ผัดเบค่อน ดูๆไปก็แค่เอาเส้นไปผัดกับเบคอน
ทีนี้เราก็เปลี่ยนมั่ง คิดว่าความกรอบคล้ายๆเบคอนคืออะไร หาง่าย ไม่แพง ก็เต้าหู้แข็งนี่แหละ เอามาทอด พอให้กรอบๆได้
ว่าแล้วก็ลงมือทำ ลวกเส้น ทอดเต้าหู้ เอาไปผัดรวม ใส่เกลือ น้ำตาล โรยออริกาโนนิดหน่อยก็จะได้กลิ่นแตกต่างไปจากผัดกะเพราหรือผัดผัก~
อร่อยดีนะ
สปาเก็ตตี้ผัดเห็ดหอม : ผัดกับเต้าหู้ไปแล้ว ลองเอามาลองผัดกับเห็ดหอมสดดูบ้างดีกว่า …ไปๆมาๆ จะง่ายและอร่อยกว่าใช้เต้าหู้ทอดนะเนี่ย แต่ถ้ามีทั้งสองอย่างก็ใส่ปนๆกันไปเถอะ ดีทั้งนั้น
สปาเก็ตตี้ผัดฟักทองถั่วลันเตา
สปาเก็ตตี้ผัดฟักทองถั่วลันเตา : เมนูคิดไปเรื่อย แต่ออกมาก็อร่อยดี
ฟักทองลดราคาเหลือ 3 บาท/1 ชิ้น ก็เลยซื้อมา ถั่วลันเตาอีกนิดหน่อย เอาฟักทองมาต้ม บดให้นิ่มๆ ผัดกับเส้นสปาเก็ตตี้ ใส่ถั่วลันเตา
ปรุงตามชอบ อยากให้รสชาติไปทางอาหารเชื้อชาติไหนก็ ใส่เครื่องปรุงไปตามนั้นกันได้เลย
วัตถุดิบในการทำสปาเก็ตตี้ผัดฟักทองถั่วลันเตา
- เส้นสปาเก็ตตี้
- ฟักทอง
- ถั่วลันเตา
- เกลือ
- น้ำตาล
วิธีทำสปาเก็ตตี้ผัดฟักทองถั่วลันเตา
- ลวกเส้นสปาเก็ตตี้พักไว้และต้มฟักทองปอกเปลือกไปพร้อมๆกัน
- นำฟักทองมายีๆให้เป็นเนื้อเละๆ นำไปผัดกับน้ำให้เป็นซุปข้นๆ ปรุงรสตามชอบ
- ใส่ถั่วลันเตาและเส้นลงไปผัด
ึความคิดเห็นล่าสุด