ขนมถ้วย

ขนมถ้วย : จานนี้ 20 บาท ซื้อจากรถเข็น ก็ตกชิ้นละ 2 บาทละนะ เป็นขนมไทยๆ ที่มีแป้ง น้ำตาล กะทิ เป็นองค์ประกอบหลักๆ
ขนมไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มี “ไข่” เป็นส่วนประกอบเท่าไรนัก ไม่เหมือนพวกขนมปัง เบเกอรี่ในยุคนี้ ที่จะเลี่ยงไข่คงทำได้ยาก
แต่ที่เหมือนกันก็คือ เพิ่มโอกาสในการอ้วนเหมือนกันนั่นเอง

ขนมถ้วย (ร้านอาหาร) : บางทีที่ไปกินที่ร้านอาหาร บางร้านจะมีขนมถ้วยด้วยนะ ชอบสั่งมากินเหมือนกัน หอมหวานมัน
ก๋วยเตี๋ยวคั่วเห็ดชุบแป้งทอด

ก๋วยเตี๋ยวคั่วเห็ดนางฟ้าชุบแป้งทอด : เป็นเมนูที่ทำเองได้ไม่ยาก ตอนนี้ก็ลองทำหลายรอบจนพอจะทำให้ชาวบ้านเขากินได้โดยไม่อายแล้ว
ชามนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ผัดกับเห็ดนางฟ้าที่นำไปชุบแป้งทอดแล้วหั่น ผัดคลุกกันเสร็จแล้วโรยต้นหอมผักชี ใส่ถั่วเพิ่มความมัน ตามด้วยซอสพริก
รสชาติมาตราฐานตามซอสพริก มีความกรุบกรอบมันจากเห็ดชุบแป้งทอด และความมันของถั่วลิสงคั่วบด และความอิ่มจากแป้ง

ก๋วยเตี๋ยวคั่วเห็ดชิเมจิชุบแป้งทอด : จานที่สองในชีวิต ซื้อผักกาดหอมมาใส่ประดับด้วย มีแครอทหั่นเต๋าเพิ่มไปด้วย น้ำจิ้มก็ลองผสมน้ำจิ้มไก่ลงไปกับซอสพริก สรุปรสชาติก็ออกมาตามนั้นแหละ เป็นไปตามรสของน้ำจิ้ม

ก๋วยเตี๋ยวคั่วเห็ด : อันนี้เป็นจานแรกในชีวิตเลย หน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ ใช้เห็ดลงไปผัดร่วมเลย ไม่ได้ต้มหรือทอดก่อน จริงๆถ้าทอดเห็ดก่อนนำมาผัดด้วยกันก็อาจจะเพิ่มรสสัมผัสได้มากขึ้น
เห็ดชุบแป้งทอด

เห็ดเข็มทองชุบแป้งทอด : เมนูเห็ดชุบแป้งทอด เป็นเมนูที่ทำได้ง่าย กินง่าย หลายคนชอบ เพราะเอาอะไรมาชุบแป้งทอดมันก็คล้ายๆกันหมด
เห็ดเข็มทองชุบแป้งทอด แป้งไม่ต้องข้นมาก เอาพอเกาะผิวเห็ด จะปรุงรสไปพร้อมๆกันด้วยก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เอามาจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยได้แล้ว
มีความกรอบในลักษณะของเห็ดเข็มทองที่กัดไปแล้วแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยบ้าง ก็กินเพลินดีนะ

เห็ดชิเมจิดำชุบแป้งทอด : ลองเอาเห็ดชิเมจิมาทอดดู สรุปก็เหมือนๆเห็ดทอดอื่นๆ คือไม่ออกรสเห็ดอะไรมากหรอก รสแป้งกลบหมด รสชาติขึ้นอยู่กับน้ำจิ้มเหมือนเคย เพราะไม่ได้ปรุงตอนผสมแป้งทอด

ขาเห็ดภูฐานชุบแป้งทอด : บางทีเราใช้ดอกเห็ดไปทำอาหารอย่างอื่น ก็จะเหลือขาเห็ดที่เป็นก้อนแข็งๆใหญ่ๆมา ก็สามารถเอามาชุบแป้งทอดกินได้ กินเพลินกว่าส่วนของดอกเห็ดอีก เพราะว่าเนื้อแน่น เป็นชิ้นเป็นคำ

เห็ดนางฟ้าชุบแป้งทอด (แป้งหนา) : บอกกันตรงๆเลยว่าบางครั้งก็มีความอยากกินอะไรที่มันเลี่ยนๆ กับเขาบ้าง เลี่ยนๆมันๆ แบบนี้ก็เลยต้องผสมแป้งเยอะๆ หน้าตาเหมือนกุ้งชุบแป้งทอด แต่ก็เป็นเห็ดชุบแป้งทอด เด็กๆกินก็คงจะแยกไม่ออก

เห็ดนางฟ้าชุบแป้งทอด (แป้งบาง) : เห็ดนางฟ้าเป็นเห็ดที่หาได้ง่าย ราคาไม่แพง นำมาชุบแป้งทอดแล้วกินง่าย อันนี้เป็นแบบแป้งบาง ผสมแป้งให้พอจับผิวเห็ด ไม่ต้องข้นมาก หน้าตาออกมาดูดี
เห็ดย่างเต้าหู้ทอดกับข้าวผัดข้าวโพด

เห็ดย่างเต้าหู้ทอดกับข้าวผัดข้าวโพด : อารมณ์ว่าอยากกินปิ้งย่างแบบเต็มที่ เอาให้เหมือนที่ร้านเลย โดยมีน้ำจิ้มไดโดมอนเป็นพระเอก
เราก็เอาเห็ดมาย่าง เอาเต้าหู้มาทอด กินกับข้าวผัดเนยกระเทียมที่ใส่ข้าวโพดลงไป
เมื่อทำกินเองได้ดังนี้ เราก็ไม่ต้องไปหากินมังสวิรัติในร้านปิ้งย่างให้เมื่อย เพราะเพียงแค่ซื้อน้ำจิ้มมา หรือปรุงน้ำจิ้มที่ชอบเอง และเอาเห็ด ผัก ฯลฯ มาย่างกิน ก็ได้รสชาติเหมือนกันที่ร้านแล้ว

ข้าวผัดเนยข้าวโพด : ทำข้าวผัดเนยกระเทียมธรรมดาก็ทำมาแล้ว ครั้งนี้ลองเพิ่มใส่ข้าวโพดลงไปด้วย คือนำข้าวโพดไปต้มก่อนและเก็บน้ำข้าวโพดและข้าวโพดไว้ผัดรวมกับข้าวทีหลัง ทำให้ข้าวผัดหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกระเทียม เนยและข้าวโพด
ส้มตำหมู่บ้าน

ส้มตำหมู่บ้าน : กินในหมู่บ้านที่ห่างไกลจากตัวเมือง เรียกว่าชนบทก็ได้ จานนี้ 20 บาทเท่านั้น
กว่าจะได้ส้มตำธรรมดานี้มา ต้องใช้เวลาให้แม่ค้าเรียนรู้มากอยู่เหมือนกัน ก็คงไม่ยากถ้าเราไม่รู้จักกัน แต่พอดีเป็นคนในพื้นที่ก็เลยให้เวลาเขาปรับตัวกับวิธีการกินของเราหน่อย
ไปสั่งครั้งที่ ๑ สั่งส้มตำไทย ไม่ใส่กุ้งแห้ง ได้ตำไทย ใส่ปูและปลาร้ามา เพราะคนที่นั่นเขาเข้าใจว่าใส่แบบนั้นจึงอร่อย นั่นคือส้มตำไทยของเขา ไม่ได้เข้าใจเหมือนกันกับเรา
ไปสั่งครั้งที่ ๒ บอกว่าไม่ใส่ปูและปลาร้า ระยะนี้แม่ค้าเริ่มกังวลถึงความอร่อยไม่อร่อยเพราะปกติของเขาคือต้องใส่ปูและปลาร้าจึงจะอร่อย เราก็ยืนยันว่าปกติเราไม่กินนะ ไม่อร่อยก็ไม่เป็นไร เอาถั่วเยอะๆแทนก็ได้ แล้วก็ได้ส้มตำไทยมา แต่ยังติดที่เผ็ดจัดจ้านตามรสมือของแม่ค้า
ไปสั่งครั้งที่ ๓ ขอลดพริกลงมาเหลือไม่กี่เม็ด เพราะกินเผ็ดอย่างชาวบ้านเขาไม่ค่อยได้
ครั้งต่อไปยังไม่มี แต่คิดว่าจะไปสั่งแบบไม่ใส่น้ำปลา หรือไม่ก็ให้ตัวเลือกเขาใส่เกลือแทนให้เรา เดี๋ยวค่อยๆลองดู ต้องใจเย็นๆ ปรับพฤติกรรมแม่ค้าไปพร้อมๆกับการลดอัตตาตัวตนของเรา
ขนมขาหมู

ขนมขาหมู : ทำไมถึงถูกเรียกว่าขนมขาหมูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ส่วนมากมักจะประกอบไปด้วยแป้ง เผือก ถั่ว
เป็นของกินเล่นที่ทำให้อิ่มกันได้ง่ายๆ เพราะเป็นของทอดที่อุดมไปด้วยแป้งและไขมัน กินได้ง่ายๆเมื่อจิ้มกับน้ำจิ้มหวานๆ ที่ประกอบไปด้วยถั่วและพริก เพิ่มความเผ็ดและมัน
เห็ดออรินจิย่างซีอิ้ว

เห็ดออรินจิย่างซีอิ้ว : เคยทำเห็ดผัดกันมาก็บ่อยแล้ว ครั้งนี้ลองเอาเห็ดไปย่าง แต่ไม่ได้ย่างแล้วเอาไปจิ้มน้ำจิ้มอย่างเคย
ครั้งนี้ลองเอาซีอิ้วและซอสปรุงรสญี่ปุ่น มาผสมๆกันแล้วค่อยๆทาระหว่างปิ้งดู ว่าหน้าตาและรสชาติจะออกมายังไง …สุดท้ายก็พอไหวอยู่บ้างนะ
ก่อนจะเอาเห็ดไปปิ้งย่างนี้เราก็จะเอาเห็ดไปต้มก่อน แล้วก็เอามาย่างไฟอ่อนๆ หรืออบจนเห็ดแห้งๆก็ได้ อร่อยดี

เห็ดออรินจิย่างจิ้มมายองเนส : เห็ดเหลือในตู้เย็น 1 ดอก ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็ลองเอามาย่างไฟ แล้วเอาไปจิ้มมายองเนสกิน และก็พบว่าเป็นของว่างที่กินง่ายดี



ึความคิดเห็นล่าสุด